4 เหตุผลที่เรามีมุมมอง “เป็นบวก” ต่อ KTB 1) กำไร 2Q62 ดีกว่าเราและตลาดคาด โดยเติบโตทั้ง YoY และ QoQ 2) คุณภาพสินทรัพย์เริ่มดีขึ้น 3) ใน 3Q62 อาจรับรู้รายการพิเศษจากการชำระคืนหนี้ของ AQ และ 4) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2562-2563 เป็นผลให้ราคาเหมาะสมเพิ่มเป็น 22.5 บาท พร้อมทั้งปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
กำไร 2Q62 ไรกว่าคาด…เติบโตเด่นทั้ง YoY และ QoQ
KTB รายงานกำไร 2Q62 ที่ 8.2 พันล้านบาท (+6% YoY และ +12% QoQ) ดีกว่าคาดถึง 14% เพราะค่าใช่จ่ายตั้งสำรองน้อยกว่าคาด ทั้งนี้กำไรเติบโต YoY หนุนจาก 1) สินเชื่อขยายตัว 1.6% QoQ และ +2.0% YTD จากสินเชื่อธุรกิจ และรายย่อย 2) NIM ปรับตัวขึ้นเป็น 3.2% จาก 3.1% ใน 2Q61 สอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนสูง ส่วนการเติบโต QoQ มีปัจจัยบวกจาก ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวลง เพราะบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์รอการขายเหลือ 1.1 พันล้านบาท ลดลงจาก 3.8 พันล้านบาท ใน 1Q62 และที่สำคัญเราเริ่มเห็นสัญญานบวกด้านคุณภาพสินทรัพย์ โดย Gross NPL ลดลง -2% QoQ เป็นผลให้ NPL ratio ขยับลงเหลือ 5.2% จาก 5.4% ใน 1Q61 และ Credit cost ต่ำลงเป็น 108 bps จาก 144 bps ใน 1Q62 และ 139 bps ใน 2Q62 พร้อมกับ Coverage ratio เพิ่มเป็น 133%
ความเข้มงวดต่อการบริหารจัดการสินเชื่อ เริ่มเห็นผล
KTB ให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เห็นได้จากการปรับนโยบายกำกับดูแล และปรับเกณฑ์อนุมัติสินเชื่อเข้มงวด โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงสีข้าว มันสำปะหลัง รวมถึงกลุ่มสหกรณ์ ควบคู่กับการใช้นโยบาย Write-off หนี้เสียอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560-2561 ดำเนินการ Write-off ไปหนี้เสียมากถึง 2.4 หมื่นล้านบาท และ 1.9 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ KTB กล่าวว่า ปัจจุบันได้เตรียมความพร้อมจัดชั้นลูกหนี้ตามเกณฑ์ IFRS9 เกือบทั้งหมดแล้ว ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปี เรามองว่าระดับการตั้งสำรอง และระดับ NPL ratio ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
คาดบันทึกรายการพิเศษจากการชำระคืนหนี้ของ AQ
ภายหลังจาก AQ แจ้งตลาดต่อประเด็นขายที่ดินทอดตลาดมูลค่าราว 8.9 พันล้านบาท ใน 4Q61 KTB ได้รับชำระคืนหนี้แล้วบางส่วนมูลค่าราว 3.9 พันล้านบาท ใน 1Q62 ที่เหลืออีกราว 5 พันล้านบาท KTB คาดว่าจะได้รับชำระภายใน 3Q62 อย่างไรก็ตามเรายังไม่ได้รวมประเด็นดังกล่าวไว้ในประมาณการ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอคำตัดสินของศาล จึงมีความเสี่ยงของการรับรู้รายได้ล่าช้าออกไป
ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาสม
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2562-2563 เพิ่มขึ้น +3% และ +5% เป็นผลให้กำไรเพิ่มเป็น 3.1 หมื่นล้านบาท (+8% YoY) และ 3.3 หมื่นล้านบาท (+6% YoY) ตามลำดับ ตามการปรับสมมติฐาน 1) ลด Credit cost 5-10 bps 2) ลดต้นทุนเงินทุนราว 10 bps เพราะเงินฝากต้นทุนสูงใกล้หมดอายุ และ 3) ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อสะท้อนต่อการด้อยค่าสินทรัพย์ เป็นผลให้ราคาเหมาะสมขยับขึ้นเป็น 22.5 บาท พร้อมปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” เรามองว่า KTB น่าสนใจจาก 1) คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น เป็นผลให้ระดับสำรองลดลงจากปีก่อนหน้า 2) ต้นทุนเงินทุนเป็นขาลง เป็นบวกต่อ NIM 3) มีกำไรพิเศษจาก AQ และ 4) Valuation ซื้อขาย PBV 0.8x (-1SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต)
FYE Dec (THBmn) |
2017A |
2018A |
2019F |
2020F |
Net Interest Income |
85,778 |
83,689 |
90,472 |
90,783 |
Non Interest Income |
37,375 |
33,532 |
33,829 |
33,508 |
PPOP |
73,746 |
64,133 |
66,264 |
68,028 |
Net Profit |
22,440 |
28,491 |
30,851 |
32,806 |
Core EPS (THB) |
1.61 |
2.04 |
2.21 |
2.35 |
Core EPS Growth (%) |
(30.5) |
27.0 |
8.3 |
6.3 |
DPS (THB) |
0.6 |
0.8 |
0.8 |
0.9 |
Dividend Yield (%) |
3.1 |
3.9 |
4.2 |
4.5 |
PER (X) |
12.1 |
9.6 |
8.8 |
8.3 |
P/BV (X) |
0.9 |
0.9 |
0.8 |
0.8 |
NPLs/Loans (%) |
5.3 |
5.2 |
5.0 |
4.8 |
CAR (%) |
17.2 |
18.2 |
18.3 |
18.3 |
ROE (%) |
8.0 |
9.6 |
9.7 |
9.7 |
Source : Company, Yuanta
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities