4 เหตุผลที่คงคำแนะนำ “ซื้อ” 1) เรามีมุมมองเชิงบวกมากหลังการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ และมีโอกาสที่กำไร 2Q62 อาจดีกว่าที่เราคาดไว้ 2) รายได้ยังเติบโตได้ทั้ง Offline และ Online ด้วย Business model ใหม่ๆ และสินค้ากลุ่มใหม่ๆ 3) GPM ยังขยายตัวได้อีกมากจากการเพิ่มสัดส่วนการ Sourcing จากปัจจุบันอยู่ที่เพียง 33% ของรายได้ทั้งหมด และได้อานิสงค์จากค่าเงินบาทแข็งค่าเป็นของแถม 4) การเติบโตแบบ S-Curve เพิ่งเริ่มต้น GPM มีโอกาสสูงที่จะดีกว่าที่เราคาดไว้จึงมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น
กำไร 2Q62 อาจดีกว่าคาด และอาจทำจุดสูงสุดใหม่
ตามบทวิเคราะห์วันที่ 21 มิ.ย. เราคาดกำไรสุทธิ 95 ลบ. (มีตั้งสำรองประโยชน์พนักงานที่ 12 ลบ.) และกำไรปกติคาดที่ 107 ลบ. (+12.6% QoQ, +10.8% YoY) มีแนวโน้มดีกว่าที่เราคาดเพราะอัตรากำไรขั้นต้นอาจออกมาใกล้เคียงกับ 1Q62 ที่ 54.7% แต่เราคาดไว้เพียง 54.2% และอาจมากกว่าจุดสูงสุดเดิมที่ทำไว้ใน 3Q61 ที่ 110 ลบ. ได้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกหนุนราคาหุ้นในช่วงสั้นได้ (รายงานงบ 2Q62 วันที่ 13 ส.ค.)
ยอดขายจะเติบโตได้อีกหรือ?
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และตลาดชุดชั้นในอาจโตไม่สูง แต่ SABINA ยังเติบโตได้มากกว่าตลาด เพราะ 1) ตลาดหน้าร้านเพิ่มช่องทางการส่งถึงบ้านด้วยบริการ SABINA @Home เมื่อลูกค้ามาที่ร้านขาดสี ขาดไซส์ ขาดรุ่นสามารถสั่งไว้ หรือสั่งออนไลน์และรอรับที่บ้านได้เพิ่มยอดขายได้ถึง 3 ลบ. / เดือน ซึ่งเทียบเท่ากับการเปิดสาขาใหม่ถึง 6 สาขา แต่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงเหมือนตั้งสาขาใหม่ 2) เพิ่มการจำหน่ายรูปแบบใหม่จาก คัพ A, B, C เป็น ไซส์ SML ลดความซ้ำซ้อนในการเลือกซื้อของลูกค้าที่เดิมมีทั้ง คัพ และไซส์ เป็นไซส์ SML เหมือนเสื้อผ้าทั่วไป โดยใช้วัสดุที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ลูกค้าสะดวก บริษัทลดการสต๊อก ทำให้ประเภทสินค้าจาก 1 คัพมี 5 – 6 ไซส์ เหลือเพียง 1 ไซส์ หรือ S, M , L, XL หรือ XXL เท่านั้น 3) เดิมเน้นตลาดเต้าทรงเล็ก เริ่มเข้าสู่ตลาดเต้าทรงใหญ่ และจากกลุ่มลูกค้าเด็กและวัยรุ่น สู่ตลาดที่มีอายุสูงมากขึ้น 4) ปัจจุบันมีกระแสนิยมชุดชั้นในประเภทแฟชั่นที่นิยมใส่เหมือนเสื้อผ้าชั้นนอกมากขึ้น เป็นการเพิ่มกลุ่มลูกค้า เพิ่มรายได้ต่อชิ้น ได้รับการตอบรับดีมาก ผ่านแบรนด์ MAD MOISELLE 5)ตลาดออนไลน์, TV Shopping และตลาด CLMV ยังมีฐานรายได้ต่ำเติบโตได้สูงไปอีก 3 – 5 ปีข้างหน้า
GPM ขยายตัวได้อีก ได้อานิสงค์บาทแข็งเป็นของแถม
ปัจจุบันเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปี 2562 ที่ 52.5% ยังต่ำกว่าที่ทำได้ใน 1Q62 ที่ 54.7% ซึ่งผู้บริหารระบุว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ค่าเฉลี่ยทั้งปีจะยังอยู่ในระดับใกล้เคียง 1Q62 และยังมีช่องทางในการขยาย GPM ได้อีกในปีถัดๆ ไป โดยมีประเด็นหลักคือ 1) รายได้จากการจ้างโรงงานต่างประเทศผลิต (Sourcing) ซึ่งมี GPM สูงถึงกว่า 60% ปัจจุบันยังมีสัดส่วนเพียง 33% ของรายได้มีแนวโน้มที่จะทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2) ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบลดลง และต้นทุนดารจ้างผลิตลดลง 3) สินค้าใหม่ที่เน้นไร้ตะเข็บมากขึ้นทำให้ใช้วัตถุดิบยางยืดน้อยลง ขั้นตอนการผลิตน้อยลง ผลิตได้มากขึ้นด้วยจำนวนคนและเครื่องจักรเท่าเดิม แต่สามารถขายได้ในราคาสูงขึ้น และตลาดมีความต้องการสูง
ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4% มีโอกาสปรับประมาณการขึ้น คงคำแนะนำ ซื้อ
แนวโน้มกำไร 2H62 จะดีกว่า 1H62 จาก Model SML เพิ่งเริ่มใช้ในเดือน ก.ค. และสัดส่วนรายได้จากการ Sourcing มากขึ้น โดยคาดกำไรทำจุดสูงสุดของปีใน 3Q62 และเป็น New high อีกครั้ง เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2562 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 432 ลบ. เติบโต 19.6 % YoY และคาดเงินปันผลปี 2562 ที่ 1.23 บาท (100% ของกำไรสุทธิ) ที่ราคาปิดวานนี้คิดเป็นผลตอบแทน 4.2% โดยเป็นส่วนของ 1H62 คาดราว 0.56 บาท (Yield 1.9%) อย่างไรก็ตามด้วยแนวโน้มกำไรที่อาจดีกว่าเราคาด ทำให้มีโอกาสปรับประมาณการขึ้นได้ จึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 37.25 บาท ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2562 เพียง 23.7 เท่า
FYE Dec (THBmn.) |
2017 |
2018 |
2019F |
2020F |
Revenue |
2,659 |
3,090 |
3,463 |
3,748 |
EBITDA |
361 |
502 |
594 |
636 |
Core Profit |
243 |
362 |
432 |
461 |
Net profit |
243 |
362 |
432 |
461 |
Core EPS (THB) |
0.70 |
1.04 |
1.24 |
1.33 |
Core EPS growth (%) |
38.4 |
48.7 |
19.5 |
6.6 |
DPS (THB) |
0.82 |
1.04 |
1.24 |
1.33 |
Core P/E (x) |
42.2 |
28.4 |
23.7 |
22.3 |
P/BV(x) |
5.4 |
5.6 |
5.5 |
5.6 |
Div Yield (%) |
2.8 |
3.5 |
4.2 |
4.5 |
Net Gearing (%) |
Cash |
5.2 |
6.3 |
13.5 |
ROE (%) |
12.8 |
19.7 |
23.4 |
25.0 |
Source : Company, Yuanta
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities