รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

กราฟประจำวัน: ดอกเบี้ยพันธบัตรอาจปรับลดลงอีกในเร็ววันนี้

เผยแพร่ 14/08/2562 15:12
อัพเดท 09/07/2566 17:31

หากตลาดต้องสั่นสะเทือนกับดอกเบี้ยพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้ ขอให้เตรียมตัวให้ดีเพราะรูปแบบการซื้อขายพันธบัตรอ้างอิงในรุ่นอายุ 10 ปี ที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อมูลจากนักวิเคราะห์ต่างชี้ชัดว่าน่าจะเกิดการปรับลดลงได้อีกในอีกไม่นานนี้

ในตลาดที่มีการเติบโตอย่างแข็งแรง นักลงทุนคาดหวังให้ผลกำไรสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เห็นว่าน่าจะมีความสามารถในการทำกำไรได้สูง จากสถานการณ์ปัจจุบันเหตุการณ์เช่นนี้จึงเกิดขึ้นได้ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว นักลงทุนจะเริ่มเก็บสะสมพันธบัตรเมื่อเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว รวมทั้งเมื่อมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว เหตุใดตลาดหุ้นจึงยังปรับตัวขึ้นทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่นักลงทุนยังผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายปี?

บางคนบอกว่าสถานการณ์ในครั้งนี้มีความแตกต่างไปจากเดิม ความสัมพันธ์กันระหว่างตลาดหุ้นกับตลาดพันธบัตรอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วก็ได้

ในสภาวการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยติดลบอย่างกรณีของเดนมาร์ก การอนุญาตให้ทำสัญญาจำนองระยะเวลา 20 ปีโดยมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับศูนย์ก็เกิดขึ้นได้ ในทำนองเดียวกันสิ่งนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นกับพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งก็ยังนับว่าโชคดีที่แม้จะมีอัตราที่ค่อนข้างต่ำแต่ก็ยังไม่ถึงศูนย์

นักลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรต่างก็มีความเห็นไม่ต่างกันที่จะเร่งกำลังความต้องการขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงแม้จะด้วยเหตุผลที่ไม่เหมือนกันก็ตาม นักลงทุนพันธบัตรเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงนี้ก่อนที่จะปรับตัวลดลงไปมากกว่านี้เนื่องจาก การปรับลดอัตราดอกเบี้ย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ส่วนนักลงทุนในตลาดหุ้นกลับเพิ่มความต้องการถือหุ้นมากขึ้นเนื่องจากคาดกว่าเฟดจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก

แน่นอนว่าตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรเคยมีทิศทางการเคลื่อนไหวพร้อมกันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อยู่หลายครั้ง อย่างเช่นในยุคเฟื่องฟูทางการค้าของทรัมป์ แต่ท้ายที่สุดแล้วตลาดก็จะไปต่อไม่ได้หากนักลงทุนเริ่มแบ่งออกเป็นสองฝ่ายและมีแนวทางไม่สอดคล้องกัน

ปัจจุบันตลาดพันธบัตรยังทำผลงานได้ดีกว่าตลาดหุ้น และจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา พันธบัตรมักจะส่งสัญญาณออกมาได้ชัดเจนกว่า เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยมักจะซื้อเฉพาะหุ้น ในขณะที่นักลงทุนสถาบันมีการลงทุนในพันธบัตรด้วย ดังนั้นช่วงแรกที่ตลาดกำลังจะขึ้นสู่จุดสูงสุดได้นั้นพบว่าเกิดจากการส่งมอบหุ้นที่มีราคาแพงเกินจริงจากนักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงให้กับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่รู้ประสีประสานั่นเอง

แม้ว่าภาพรวมทางด้านอุปสงค์และอุปทานจะยังไม่ชัดเจนนัก สัญญาณต่างๆ ที่ชี้ว่าดอกเบี้ยพันธบัตรกำลังจะปรับตัวลดลงอีกครั้งจึงอาจทำให้เกิดการเทขายในตลาดหุ้นออกมามากขึ้นด้วยเช่นกัน

10-Y UST Daily

กราฟรายวันของดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ รุ่นอายุ 10 ปี

เมื่อวานนี้ ดอกเบี้ยพันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปียังคงปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวกรอบราคาเดิมในรอบสี่วัน การซื้อขายสร้างรูปแบบธงขาขึ้นได้ในช่วงเวลาที่ยังเป็นขาลง โดยทั่วไปธงจะมีอายุอย่างน้อย 5 วันทำการ ดังนั้นธงที่เกิดขึ้นนี้มีอายุ 4 วันก่อนที่จะทะลุกรอบลงไป

อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงถึง 20% ภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว ตามมาด้วยแรงหนุนขาขึ้นเล็กน้อยที่ทำให้เกิดธงขาขึ้นในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะสั้นกับระยะยาวยังคงไม่สอดคล้องกันเช่นนี้ ทำให้เราเชื่อมั่นกับการตีความในครั้งนี้พอสมควร

การปรับลดลงในช่วงแรกของดอกเบี้ยซึ่งทำให้เกิดเสาธงขึ้นมานั้นเกิดจากแรงเทขายที่เกิดจากความตกใจ (หรือในกรณีนี้คือ การเข้าซื้อพันธบัตรทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง) การสะสมตัวจะเกิดขึ้นเมื่อตลาดต้องการพักเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอาการตื่นตระหนกไปเองเท่านั้นหรือไม่

การดีดตัวขึ้นเล็กน้อยแสดงให้เห็นว่าความต้องการยังคงมีอยู่ แต่การที่ดอกเบี้ยปรับลงไปทะลุกรอบล่างนั้นหมายความว่าแรงฝั่งอุปทานมีเหนือว่าแรงฝั่งอุปสงค์ และยิ่งก่อให้เกิดความตระหนกด้วยการเสนอขายที่ราคาต่ำลงไปอีกเพื่อหาผู้ซื้อที่ต้องการให้ได้

ไม่ว่ารูปแบบที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นรูปธงขาขึ้นอย่างแท้จริงหรือไม่ Hammer ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่แล้วก็เป็นแนวรับที่น่าจะเป็นไปได้ และผู้ซื้อพันธบัตรยังคงต้องการหลบไปเลียแผลจากการที่อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงมาเป็นเวลานานก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาได้

หากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรตกลงไปต่ำกว่าระดับ 1.595 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของ hammer โอกาสที่จะร่วงลงต่อไปอีก 400 จุดเบสิสก็มีมากขึ้นซึ่งก็จะเป็นการทำรูปแบบเสาธงเหมือนกับครั้งก่อนนั่นเอง สถานการณ์เช่นนี้สอดคล้องกับรูปแบบธงแบบขาลงสำหรับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่ชี้ว่าหากราคาเกิดการทะลุแนวรับลงไปอีกก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะเกิดจุดสูงสุดระยะยาวนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 เป็นต้นมาได้มากขึ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย