รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ตลาดฟอเร็กซ์คึกคักอีกครั้งหลังกระแสข่าวว่าอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีก

เผยแพร่ 20/08/2562 09:58
อัพเดท 09/07/2566 17:31

โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management

ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ในเดือนสิงหาคม

นักลงทุนเริ่มทะยอยหันกลับมาทดลองเสี่ยงลงทุนในหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ อีกครั้ง ตลาดหุ้นมีการซื้อขายกันสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สาม ด้านดอกเบี้ยพันธบัตรก็ฟื้นตัวขึ้นได้จากเคยลงไปทำจุดต่ำสุด รวมทั้งเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ก็เริ่มต้นสัปดาห์ได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ การเคลื่อนไหวต่างๆ ดังกล่าวไม่ได้เป็นผลมาจากข้อมูลรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจเนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้มีรายงานใดๆ ออกมา แต่สกุลเงินต่างๆ มีการเคลื่อนไหวไปตามกระแสข่าวและความคาดหวังที่จะมีการนำนโยบายผ่อนคลายทางการเงินกลับมาใช้ ในสหรัฐฯ มีข่าวว่าทำเนียบขาวกำลังพิจารณาปรับลดภาษีเงินได้ลงเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราทราบดีอยู่แล้วว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่พอใจกับตัวเลข การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งล่าสุดเท่าใดนัก ดังนั้นหากเฟดยังปรับดอกเบี้ยลงไม่มากพอ เขาก็จะเหลืออีกเพียงทางเลือกเดียว คือการใช้นโยบายของรัฐมาเป็นตัวกระตุ้นแทน การปรับลดอัตราภาษีเงินได้น่าจะเป็นวิธีที่จะทำให้ทั้งนักลงทุนในตลาด ตลอดจนธุรกิจองค์กรและผู้บริโภคเกิดความพอใจได้ แต่การที่จะทำเช่นนั้นจะต้องผ่านความเห็นจากสภาคองเกรสเสียก่อน ซึ่งสภาก็อาจลำบากใจที่จะอนุมัติในเรื่องนี้เนื่องจากภาษีเงินได้เป็นเงินที่นำไปใช้สำหรับสวัสดิการสังคมซึ่งเป็นสิ่งที่สภากำลังต้องการให้มีสวัสดิการเพิ่มเติมอยู่ แต่แค่กระแสข่าวในเรื่องนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้นักลงทุนเกิดความพอใจค่อนข้างมากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นเพียงประเทศเดียวที่มีความคิดว่าต้องการจะใช้นโยบายของรัฐมากระตุ้นเศรษฐกิจ

นายบอริส ชลอสเบิร์ก เพื่อนร่วมงานของเราเขียนไว้ในรายงานว่า “นายออลาฟ โชลส์ รัฐมนตรีคลังของเยอรมนีกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลเยอรมนีจะยอมเพิ่มการใช้จ่ายอีกมากถึง 50,000 ล้านยูโรหากเกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจำนวนดังกล่าวจะดูไม่มาก แต่ก็เป็นสัญญาณแรกที่ชี้ว่า แม้เยอรมนีจะเป็นชาติที่ค่อนข้างมัธยัสถ์แต่ก็ยังมีความเข้าใจและพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อช่วยพยุงสภาพเศรษฐกิจที่กำลังค่อนข้างเสี่ยงต่อการชะลอตัวในขณะนี้ให้ไปต่อได้” ซึ่งข้อมูลดังกล่าวก็เป็นแรงหนุนในเบื้องต้นให้กับค่าเงิน ยูโร ได้เล็กน้อยเช่นกัน แต่เมื่อปิดตลาดที่นิวยอร์ค ยูโรก็ปรับตัวต่ำลงและยังร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ห้าติดต่อกัน การที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ว่าธนาคารกลางยุโรปจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วงเดือนหน้านี้ ประกอบกับตัวเลขดัชนี PMI ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มว่าจะแย่ลง EUR/USD จึงมีแนวโน้มว่าจะแย่ลงตามไปด้วย โดยมีแนวรับอยู่ที่จุดต่ำสุดของเดือนสิงหาคมที่ระดับ 1.1027 แต่ระดับสำคัญที่ควรจับตามองจะอยู่ที่ 1.10

สำหรับการซื้อขายในวันพรุ่งนี้นั้น จีนน่าจะเป็นผู้คุมเกมเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากจีนจะมีการประกาศรายละเอียดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ (LPR) อัตราใหม่ในเวลา 09:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (21:30 น. ตามเวลาในนิวยอร์ค) โดย LPR แบบใหม่ซึ่งปรับเปลี่ยนได้นี้จะถูกนำมาใช้แทนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ในแบบเดิม และจะมีการปรับเปลี่ยนทุกวันที่ 20 ของทุกเดือน การปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลอยตัวก็คือการยอมให้อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงได้นั่นเอง โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ของจีนอยู่ที่ 4.35% มาเป็นเวลานานถึง 4 ปีแล้ว เมื่อนำอัตราใหม่มาใช้ในคืนนี้ อัตราดอกเบี้ยจะถูกกำหนดให้ต่ำลงและน่าจะลดต่ำลงต่อไปได้อีก ยิ่งอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียงใด ตลาดก็จะยิ่งได้รับผลดีมากขึ้นเท่านั้น นอกเหนือไปจากการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวแล้ว นักลงทุนยังรอนโยบายจากภาครัฐของจีนอยู่ด้วยเช่นกัน

ข้อสำคัญคือควรจับตามองดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ ไว้ให้ดี เนื่องจากการประกาศเรื่องอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวของจีนน่าจะส่งผลต่อสกุลเงินทั้งสองอย่างมาก รายงานการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลียครั้งล่าสุดก็มีกำหนดที่จะเปิดเผยออกมาพร้อมกับดัชนีราคาการซื้อขายผลิตภัณฑ์นม ของนิวซีแลนด์เร็วๆ นี้เช่นกัน ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ธนาคารกลางออสเตรเลียยังไม่เห็นควรให้ใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเนื่องจากเห็นว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งอยู่ ในขณะนี้เงิน AUD ยังอ่อนตัวอยู่ ดังนั้นหากรายงานการประชุมแสดงออกมาในทิศทางที่ค่อนข้างประนีประนอมว่าอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้แล้วล่ะก็ AUD ก็อาจจะยังดิ่งลงต่อไป

ความคิดเห็นล่าสุด

ขอคุณ
Good information!!!For this news ; How about the price of Gold spot in this month.
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย