เหตุใดดอลลาร์จึงแข็งค่าขึ้นมากก่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย?

โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management

ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 17 กันยายน 2019

ความเสี่ยงครั้งสำคัญที่สุดในรอบสัปดาห์กำลังจะเกิดขึ้นจากการแถลงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ในขณะที่มีการคาดการณ์กันอย่างมากว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเป็นครั้งที่สองของปีนี้ USD/JPY ก็ปรับตัวขึ้นมาซื้อขายกันอยู่ในระดับที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบยาวนานกว่าหนึ่งเดือน โดยทั่วไปแล้วการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมักจะทำให้ค่าของสกุลเงินต่างๆ ลดลงตามไปด้วย แต่จากสิ่งที่เราเห็นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงการประชุมธนาคารกลางยุโรป เงินยูโร ดิ่งลงต่ำสุดหลังจากทีมีการตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ความคาดหวังเป็นเหตุผลหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อ USD/JPY ก่อนที่จะมีการประชุมธนาคารกลาง ตลาดเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการปรับลด 25 จุดเบสิสแต่ประธานเฟดอย่างเจ พาวเวลล์อาจจะทำให้เกิดการพลิกล็อคก็เป็นได้

สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีทั้งดีขึ้นและแย่ลงนับตั้งแต่มีการประชุมครั้งที่แล้วในเดือนกรกฎาคม ยอดขายปลีกก็ยังคงชะลอตัว การเติบโตของการจ้างงาน มีมากพอสมควร อุตสาหกรรมในภาคการผลิตลดน้อยลง และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก็ยังคงแย่อยู่ แต่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเริ่มคงตัว การเติบโตของค่าจ้างเพิ่มเร็วมากขึ้น และอุตสาหกรรมในภาคบริการ ก็พัฒนาขึ้นได้ค่อนข้างเร็ว รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังคงเป็นไปตามความเห็นของเฟดหลังจากที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึงสามครั้ง จากข้อมูลปริมาณการจ้างงานนอกภาคการเกษตรทำให้ทราบว่าในเดือนสิงหาคม ปริมาณการจ้างงานก็ยังเติบโตได้ช้า แต่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงกลับเพิ่มสูงขึ้นมาก ปริมาณตำแหน่งงานมีเพียง 130,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเดิมที่เคยมี 159,000 ตำแหน่ง แต่รายได้ดีขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับ 0.3% ในเดือนกรกฎาคม การเติบโตของอัตราค่าจ้างในครั้งนี้นับว่าสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน จากข้อมูลในรายงานสรุปความเห็นของธนาคารกลางเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจยังคงมีความเชื่อมั่น แม้ว่าสภาวะทางการค้าจะยังมีความไม่แน่นอน แต่ความกังวลดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้นายจ้างต้องหยุดเพิ่มเงินค่าจ้างให้กับลูกจ้างแต่อย่างใด ดังนั้นในขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีท่าทีว่าจะเกิดขึ้นจริงในเดือนนี้ สำหรับเงินดอลลาร์แล้ว การแถลงของนายพาวเวลล์ในครั้งนี้ก็น่าจะเป็นการช่วยมากกว่าเป็นการฉุด

จากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้ทราบจากที่คณะกรรมการธนาคารกลางเคยออกมาแสดงความคิดเห็นนั้นทำให้ทราบว่าคณะกรรมการเองก็ยังมีความลังเลใจที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยจะสังเกตได้จากรายงานที่เราเน้นย้ำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับความเห็นของประธานเฟดที่ยังคงมีความไม่แน่ใจในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้อยู่ และยังได้รับการสนับสนุนจากความเห็นของหนึ่งในกรรมการนโยบายการเงินผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอย่างนายโรเซนเกรนด้วยว่า “เฟดยังไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดในขณะนี้หากตัวเลขทางเศรษฐกิจยังเป็นไปตามความคาดหมายอยู่” ทางด้านนายวิลเลียมส์ กรรมการผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอีกคนก็ยังรู้สึกว่าสภาพเศรษฐกิจพื้นฐานในตอนนี้ยังแข็งแรงพอที่จะเดินหน้าต่อไปได้ แต่จะไม่ขอคาดเดาว่าผลการประชุมในเดือนกันยายนจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนนายแคพแลน ผู้ว่าการธนาคารกลางอีกคนหนึ่งก็เห็นด้วยว่าควรประเมินข้อมูลต่างๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะทำการตัดสินใจว่าควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ความเห็นเช่นนี้จึงค่อนข้างแตกต่างจากความเชื่อมั่นของตลาดซึ่งเชื่อว่าจะต้องมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเบสิสในวันที่ 18 กันยายนนี้อย่างแน่นอน ทำให้เราเกิดความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าตลาดจะคาดเดาท่าทีผ่อนปรนของเฟดผิดไป แม้ว่าเฟดอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายนจริง แต่การแถลงในครั้งนี้อาจจะไม่ได้แสดงออกมากขนาดนั้นก็ได้

หากนายพาวเวลล์มองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ว่าเป็นเรื่องที่ดี คู่เงินที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดน่าจะเป็น USD/JPY ซึ่งก็น่าจะทะลุไปที่ 109 ได้ ส่วน EUR/USD ก็อาจจะกลับตัวลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 1.10 แต่หากเราคิดผิดและนายพาวเวลล์มีท่าทีที่เปิดโอกาสให้มีการปรับลดในเดือนธันวาคมอีกครั้ง USD/JPY น่าจะขึ้นไปทดสอบที่ 107 ได้ แต่อาจทำให้ USD/CAD เป็นคู่เงินที่น่าขายมากที่สุดไปเลย นอกเหนือจากเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว เฟดจะยังประกาศรายงานการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจฉบับปรับปรุงออกมาด้วย ซึ่งก็อาจส่งผลกับค่าเงินดอลลาร์ได้ด้วยเช่นกัน