อัตราผลตอบแทนพันธบัตรแต่ละรุ่นอายุที่ห่างออกจากกัน และรูปแบบกราฟของผลตอบแทนดังกล่าวก็เป็นสัญญาณโดยทั่วไปที่จะบ่งชี้ได้ว่าสภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังจะเกิดขึ้น แต่เมื่อไม่นานมานี้นักลงทุนก็ได้ค้นพบตัวชี้วัดใหม่ที่จะสามารถคาดการณ์แบบนี้ได้เช่นกัน สิ่งนั้นก็คือ ทองแดง
ทองแดงคือวัตถุดิบที่ใช้ในการสร้างกระแสไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้าในโทรศัพท์มือถือและในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกือบทุกชนิด โลหะสีแดงชนิดนี้ยังได้รับการยกย่องจากผู้ช่ำชองและมีประสบการณ์ทางด้านสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ว่าเป็นสิ่งที่สามารถ “วิเคราะห์และบ่งชี้” ได้ล่วงหน้าว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวกำลังจะเกิดขึ้น
ทองแดงไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
กราฟราคาทองแดงแบบรายวัน - สร้างโดย TradingView
สำหรับนักวิเคราะห์แล้ว การที่ราคาทองแดงร่วงลงนั้นถือว่าเป็นคำเตือนว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ก่อนที่จะเกิดรูปแบบกราฟแบบ Inversion ของผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปี กับ 2 ปี ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนนี้ด้วยซ้ำไป แต่ทองแดงกลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรเนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนยังตื่นเต้นกับโลหะประเภทอื่นอย่าง ทองคำ และ แพลเลเดียม มากกว่า
สำหรับการซื้อขายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ราคาสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าร่วงลงทำจุดต่ำสุดหลังจากที่สถาบันการจัดการอุปทานได้ประกาศข้อมูลตัวเลข อุตสาหกรรมโรงงานของสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำจากกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวได้เป็นอย่างดี
ราคาสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าที่มีกำหนดส่งมอบในเดือนธันวาคมในตลาด Comex ของนิวยอร์คปรับตัวลดลงไปอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบเดือนที่ระดับ $2.515 ต่อปอนด์หลังจากที่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจของ ISM ประกาศออกมา หลังจากนั้นก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนไปปิดตลาดที่ระดับ $2.5606 ถือว่าปรับลดลงในวันเดียวกัน 0.7%
ราคาทองแดงอาจกำลังอยู่ในช่วงรอยต่อที่ใกล้จะหลุดแนวรับอีกครั้ง
นายเอริค สโคลส์ นักกลยุทธ์จากบริษัท RJO Futures ในชิคาโกให้ความเห็นว่า นักลงทุนไม่ควรละสายตาไปจากทองแดงในขณะนี้เลย เนื่องจากราคาของทองแดงกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่อาจจะหลุดแนวรับลงไปต่อได้ ซึ่งก็จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นอีกว่าสภาพเศรษฐกิจกำลังมีความเสี่ยงสูง
นายสโคลส์กล่าวในรายงานว่า
“ขณะนี้แนวรับยังอยู่ที่ระดับ $2.483 หากราคาทะลุผ่านลงไปจนไปปิดอยู่ใต้แนวรับนี้ได้ก็น่าจะเกิดการเทขายออกมาอย่างหนักตามมาอีกได้”
“สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือหากดูจากกราฟรายสัปดาห์ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมาจะเห็นว่ามีช่องว่างเกิดขึ้น จากสุภาษิตโบราณที่ว่า ‘ช่องว่างมีไว้สำหรับการเติมเต็ม’ นั้นสำหรับนักลงทุนทั่วไปก็น่าจะมองว่าช่วงนี้น่าจะเป็นโอกาสในการทำกำไรกับตลาดขาลง แต่สำหรับผู้ที่ถือทองแดงอยู่ในมือจริงๆ แล้วจังหวะนี้คือโอกาสแห่งการทุ่มทุนเสี่ยงเลยทีเดียว”
ข้อมูลกราฟทางเทคนิครายวันของ Investing.com ส่งสัญญาณสำหรับทองแดงว่าให้ “ขายทันที” และคาดว่าราคาจะลงไปแตะที่ระดับ $2.469 ได้ในระยะสั้น
นายเอ็ดเวิร์ด เมร์ ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับทองแดงจากบริษัท INTL FCStone ในนิวยอร์คให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทว่า ข้อมูลของ ISM สร้างความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่กำลังชะลอตัวซึ่งส่งสัญญาณออกมาผ่านทางราคาของทองแดง
ตัวเลขในภาคการผลิตชะลอตัวลงเป็นวงกว้าง
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจอีกตัวหนึ่งซึ่งลดลงด้วยเช่นกันคือตัวเลขในภาคการผลิต ซึ่งก็ส่งผลกระทบกับทองแดงด้วย เนื่องจากทองแดงนั้นใช้กับแทบทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ของใช้ในสำนักงานไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า นายเมร์เสริมว่า
“เมื่อตัวเลขการผลิตหลักต่างๆ เริ่มลดลง ปริมาณการใช้โลหะต่างๆ ก็ย่อมลดลงตามไปด้วย”
นายสโคลส์กล่าวว่าทองแดงไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรในฐานะตัวพยากรณ์สภาพเศรษฐกิจ
“โดยทั่วไปแล้ว เวลาที่เราพูดถึงเรื่องความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอ้างอิงจากตลาดซื้อขายล่วงหน้า เรามักจะได้ยินเรื่องผลต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรุ่นอายุต่างๆ กับรูปแบบกราฟเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดเจนกว่านั้นคือราคาของทองแดง”
“ทำไมน่ะเหรอครับ ก็เพราะว่าทองแดงถือเป็นตัวแทนของภาคการก่อสร้าง มันหมายถึงอุตสาหกรรมโรงงาน และความต้องการใช้ทองแดงมีความสัมพันธ์อย่างมากกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลก”
นายสโคลส์กล่าวว่าหากรูปแบบกราฟราคาของทองแดงยังมีแนวโน้มที่จะดิ่งลงต่อไป มันจะไม่ได้เกิดขึ้นเพราะอุตสาหกรรมภาคการผลิตพังทลาย แต่เป็นเพราะความต้องการใช้หดตัวลงมากกว่า
เขาเสริมว่า
“หากการขยายตัวทางเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดความต้องการใช้โดยตรงที่มากขึ้นและผลักดันให้ราคาทองแดงสูงขึ้น ในกรณีนี้สิ่งที่น่าจทำให้ราคาทองแดงร่วงลงได้มีเพียงอย่างเดียวคือเศรษฐกิจที่กำลังหดตัว”
ข้อตกลงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะบรรลุผลเพื่อช่วยยับยั้งตลาดขาลงในขณะนี้ได้ทันเวลาหรือไม่?
นายสโคลส์เชื่อว่าความต้องการจากจีนนั้นอาจส่งผลให้ราคาทองแดงเคลื่อนตัวได้ทั้งสองทิศทาง แต่จากข้อมูลปัจจัยพื้นฐานนั้นยังชี้ว่าตลาดทองแดงจะยังเป็นขาลงอยู่ เว้นเสียแต่สหรัฐฯ จะสามารถบรรลุข้อตกลงกับจีนได้ในอนาคตอันใกล้
เขากล่าวว่าราคาสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าที่มีกำหนดส่งมอบในเดือนธันวาคมเป็นตัวบ่งชี้ว่าราคาในตลาดน่าจะยังติดหล่มอยู่ในรูปแบบ head-and-shoulders ที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2016 จนมาถึงปัจจุบัน
ในความคิดของเขา ข้อมูลดังกล่าวจึงไม่ควรถูกมองข้าม
“เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทางเทคนิคจะพบว่าช่วงเดือนธันวาคม ทองแดงจะเริ่มมีแนวโน้มเป็นขาลงเนื่องจากกราฟราคารายสัปดาห์ซึ่งยังมีรูปแบบ head and shoulders ในรอบหลายปีนั้นใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว”