รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ในช่วงที่น้ำมันและทองคำยังมีความเสี่ยง สินค้าเกษตรอาจมีราคาสูงเกินจริงหรือไม่?

เผยแพร่ 17/10/2562 12:45
อัพเดท 14/08/2566 17:57

นับตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ราคาข้าวโพด และ ข้าวสาลี ปรับขึ้นมาได้ราว 10% ส่วนถั่วเหลืองนั้นปรับตัวขึ้นมาได้ 8% นักลงทุนจึงยังมีความกลัวอยู่ว่าจะหลงทางเหมือนกับที่เคยมีการประเมินราคาน้ำมันและทองคำผิดทางในช่วงก่อนหน้านี้หรือไม่

Wheat Weekly TTM

กราฟราคาข้าวสาลีรายสัปดาห์ในช่วง 12 เดือนล่าสุด

การที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงไม่นานมานี้เกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย รวมทั้งตัวเลขผลผลิตทางการเกษตรจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) ที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ แต่ปัจจุบันแนวโน้มดังกล่าวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง และอาจทำให้ราคาเริ่มลดลงได้เนื่องจากความกังวลในเรื่องผลผลิตที่สูงขึ้น

การเมืองของจีนก็ทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้นด้วย

ในขณะที่เริ่มเกิดความกังวลในเรื่องผลผลิต ปัญหาทางการเมืองก็ยังรุมเร้าเข้ามาเพิ่มด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่าจีนจะยอมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรของสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 50,000 ล้านเหรียญ ก็ต่อเมื่อ ทำเนียบขาวยอมยกเลิกการเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่กับสินค้านำเข้าจากจีนในเดือนธันวาคมเท่านั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นสัญญาณของความผันผวนและยืดเยื้อในสงครามการค้าระหว่างทั้งสองประเทศอีกครั้งหนึ่ง

Corn Weekly TTM

กราฟราคาข้าวโพดรายสัปดาห์ในช่วง 12 เดือนล่าสุด

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรหลักทั้งสามประเภทของสหรัฐฯ ในการซื้อขายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาต่างก็ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยถั่วเหลืองและข้าวสาลีปรับลดลงอย่างละ 0.7% ส่วนข้าวโพดปรับลดลง 1.2%

จะเห็นได้ว่าราคาข้าวโพดมีการปรับลดลงมากกว่าอย่างอื่น รายงานตัวเลขผลผลิตทางการเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งเปิดเผยออกมาในวันที่ 10 ตุลาคมนั้นแสดงให้เห็นว่ามีการคาดการณ์ตัวเลขผลผลิตข้าวโพดไว้ที่ 168.4 บุชเชลซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ในเดือนกันยายนซึ่งอยู่ที่ 168.2 บุชเชลอยู่เล็กน้อย

ผลผลิตข้าวโพดไม่น่าจะลดลงมากนัก

เว็บไซต์ Agweb รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้จาก USDA ไว้ว่า

“ในช่วงที่เกษตรกรทั่วสหรัฐฯ กำลังเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีอยู่นี้ USDA กลับแทบไม่ปรับเพิ่มตัวเลขผลผลิตข้าวโพดที่คาดการณ์ขึ้นเลย”

นายเซธ เมเยอร์ จากสถาบันวิจัยนโยบายด้านอาหารและสินค้าทางการเกษตรแห่งมหาวิทยาลัยมิซูรีมีความคิดเห็นว่าคงเป็นการยากที่ USDA จะปรับตัวเลขการคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดทั่วประเทศให้มากขึ้นได้เพราะมีสาเหตุหลักมาจากเรื่องของช่วงเวลา เขากล่าวว่า

“มีโอกาสเป็นไปได้ แต่คงไม่ใช่ช่วงนี้ เพราะในอดีตที่ผ่านมาส่วนใหญ่ตัวเลขผลผลิตที่คาดการณ์จะเริ่มลดลงในเดือนตุลาคม นอกจากนี้การเพาะปลูกข้าวโพดที่ผ่านมานั้นมีความล่าช้าจากช่วงปกติไประยะหนึ่งด้วย เราจึงยังไม่ควรคาดหวังว่าจะมีผลผลิตจำนวนมากในช่วงนี้”

ราคาถั่วเหลืองและข้าวสาลีก็น่าจะเริ่มแผ่วลงเช่นกัน

นายแดน ฮูเบอร์ นักวิเคราะห์อาวุโส เจ้าของผลงาน “รายงานประจำวันจากฮูเบอร์” จากเมืองเลคชาร์ลส์ รัฐอิลลินอยส์กล่าวว่า ไม่เพียงแต่ข้าวโพดเท่านั้นที่เริ่มอ่อนแรง แต่สินค้าทางการเกษตรอีกสองอย่างก็จะอ่อนลงตามไปด้วยเช่นกัน เขากล่าวว่า

“อย่าลืมว่าราคามีการปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหกสัปดาห์แล้ว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเริ่มมีการอ่อนแรงลงบ้าง”

“สุดท้ายแล้ว การวิ่งขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาย่อมเป็นไปได้ยาก แม้ว่าจะมีปัจจัยทางด้านบวกอย่างเช่น สภาพอากาศที่หนาวเย็นและความผันผวนของการเจรจาทางการค้ามาคอยหนุนหลังอยู่ก็ตาม”

นายฮูเบอร์กล่าวว่า พยากรณ์อากาศประจำสัปดาห์นี้ทำให้ทราบว่าอากาศจะมีความปลอดโปร่งแจ่มใส ทำให้เป็นการช่วยคลายความกังวลในเรื่องภูมิอากาศในเขตที่ราบทางภาคเหนือ รวมทั้งปัญหาจากอากาศที่หนาวเย็นจนเกิดหิมะที่ปกคลุมไปทั่วเขตมิดเวสต์ตอนเหนือไปได้ค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันการเพาะปลูกก็ยังอยู่ในสภาวะที่แข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้

Soybeans Weekly TTM

กราฟราคาถั่วเหลืองรายสัปดาห์ในช่วง 12 เดือนล่าสุด

ขณะนี้ในอเมริกาใต้ก็เริ่มที่จะมีฝนตกมากขึ้น AgRural คาดว่าการเพาะปลูกถั่วเหลืองในบราซิลเสร็จสิ้นไปแล้วเพียง 11% ซึ่งยังห่างจากปีที่ผ่านมาซึ่งในช่วงนี้ของปีน่าจะเสร็จสิ้นไปแล้ว 20% ส่วนเกษตรกรในอาร์เจนตินานั้นยังคงมุ่งเน้นไปที่ข้าวโพดเป็นหลัก โดยคาดว่ามีการเพาะปลูกเสร็จสิ้นไปแล้ว 24% ถือว่าช้ากว่าปีที่ผ่านมาอยู่ 2.7% สภาพภูมิอากาศที่แห้งเช่นนี้อาจไม่เหมาะสมสำหรับการเริ่มเพาะปลูกเท่าใดนัก แต่กระนั้นรายงานการประเมินคุณภาพข้าวโพดเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าข้าวโพด 31.5% อยู่ในเกณฑ์ดี อีก 56% อยู่ในขั้นพอใช้ และ 12.5% อยู่ในเกณฑ์แย่

จีนเผยว่าจะซื้อตามปริมาณที่ต้องการใช้จริงเท่านั้น แต่ไม่รับประกันจำนวน

ปัจจัยสุดท้ายก็ยังคงหนีไม่พ้นเรื่องของจีนอีกครั้ง

นางเกง ชวง รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของจีนกล่าวว่า ปริมาณสินค้าทางการเกษตรที่จีนจะซื้อจากสหรัฐฯ นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการใช้จริงในประเทศ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเท่ากับ 50,000 ล้านเหรียญตามที่สหรัฐฯ ต้องการ นายเกงเปิดเผยว่าเฉพาะในปีนี้ จีนได้ซื้อถั่วเหลืองไปแล้ว 20 ล้านเมตริกตัน เนื้อสุกร 700,000 เมตริกตัน ฝ้าย 320,000 เมตริกตัน และข้าวฟ่างอีก 700,000 ล้านเมตริกตัน

คำพูดของรัฐมนตรีเกงจึงเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักกับนักวิเคราะห์อาวุโสอย่างนายฮูเบอร์ที่เคยรายงานว่า แม้ในช่วงที่สินค้าโภคภัณฑ์ได้รับความนิยมอย่างสูง ในช่วงที่ราคาถั่วเหลืองสูงถึง $17 ต่อบุชเชลและข้าวโพดมีราคาสูงกว่า $6 ต่อบุชเชลนั้น ในช่วงนั้นจีนมีการซื้อสินค้าทั้งสองประเภทนี้รวมกันเป็นมูลค่าเพียง 27,000 ล้านเหรียญเท่านััน นายฮูเบอร์ยังเสริมด้วยว่า

“เนื่องจากว่านี่ไม่ใช่การเสนอให้ความช่วยเหลือที่เกิดจากความเห็นอกเห็นใจผู้ที่กำลังเผชิญความยากลำบากทั่วไป ความคิดเห็นเช่นนี้จึงนำมาพิจารณาแบบเดียวกันไม่ได้”

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย