รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

รายงานผลประกอบการของดิสนีย์ รายจ่ายที่มาพร้อมกับรายได้ในอนาคต

เผยแพร่ 07/11/2562 17:31
อัพเดท 09/07/2566 17:31

  • รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2019 ในวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน หลังจากตลาดปิด
  • รายได้ที่คาดหวัง: 19.290 ล้านเหรียญ
  • กำไรต่อหุ้นที่คาดหวัง : $0.95

สำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัท Walt Disney (NYSE:DIS ) ความสนุกน่าจะจบลงแล้ว บริษัท ได้เข้าสู่ช่วงที่การใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นและผลกำไรจะได้รับผลกระทบ เมื่อผลประกอบการ ในไตรมาสที่ 4 จาก House of Mouse จะออกมาในเย็นวันนี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโดยเฉลี่ยแล้วกำไรต่อหุ้นจะลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่การเติบโตของรายได้ยังคงแข็งแกร่งประมาณ 35% ปีแล้วปีเล่า ความท้าทายสำหรับดิสนีย์คือ การแสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์สตรีมมิ่งวิดีโอเป็นความสำเร็จที่สำคัญ ซึ่งจะสร้างกระแสเงินสดให้กับ บริษัท อย่างรวดเร็ว

กราฟ ราคาหุ้นดิสนีย์ รายสัปดาห์

ดิสนีย์กำลังลงทุนอย่างหนักเพื่อเอาชนะคู่แข่งอย่าง Netflix Inc (NASDAQ:NFLX) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่าปี 2019 จะเป็นปีงบประมาณที่ยากลำบากเนื่องจากต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงภายในหลังจากที่ผนวกเข้ากับ 21st Century Fox และการพัฒนาโปรแกรมเรือธงของค่ายคือการบริการ Disney+ ซึ่งมีกำหนดปล่อยตัวในวันที่ 12 เดือนพฤศจิกายนนี้

บริษัทได้กำหนดราคา สำหรับแพกเกจบริการสตรีมมิ่งใหม่ ในราคาที่ต่ำจนน่าทึ่งที่ $ 12.99 เหรียญต่อเดือน สำหรับแพคเกจที่รวมถึงรายการครอบครัว กีฬาสด และรายการโทรทัศน์อีกมากมาย ซึ่งหากเหมาแพ็กเกจของ Disney+ ESPN+ และ Hulu จะมีการลดราคาแพกเกจลงเกือบถึง 30% ซึ่งถูกกว่าราคาแพกเกจเดี่ยวของผู้ให้บริการข้างต้น

แต่ทั้งหมดนี้หมายถึงต้นทุนที่สูงขึ้นและความสามารถในการทำกำไรลดลงในไตรมาสที่กำลังจะมาถึงหากดิสนีย์ยังไม่สามารถทำกำไรจากธุรกิจเดิมได้มากพอที่จะปิดช่องว่างนี้ ในไตรมาสที่ 3 การใช้จ่ายในภาพยนตร์และรายการทีวีสำหรับบริการออนไลน์ใหม่ส่งผลให้เกิดการสูญเสียเงินจำนวน 553 ล้านเหรียญ ตัวเลขดังกล่าวอาจสูงถึง 900 ล้านเหรียญในไตรมาสที่สี่ Christine McCarthy หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Disney กล่าวกับนักวิเคราะห์ในรายงานผลประกอบการที่ผ่านมา

บริการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะมีสมาชิกระหว่าง 60 ล้านถึง 90 ล้านรายภายในสิ้นปีงบการเงิน 2024 ซึ่งเป็นปีที่ บริษัทคาดว่าจะเป็นส่วนที่สามารถสร้างผลกำไรได้

ความกดดันของหุ้นดิสนีย์

โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในธรกิจของการสตรีมมิ่งจะส่งผลดีต่อดิสนีย์ บริษัท Verizon Communications Inc (NYSE:VZ) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับสองในสหรัฐอเมริกา ได้ให้ผู้ใช้ Disney+ ใช้บริการได้ฟรีถึง 1 ปี

ค่าใช้จ่ายในแพกเกจเริ่มต้นของ Disney+ อยู่ที่ $6.99 เหรียญต่อเดือนซึ่งถูกกว่า Netflix กว่าครึ่ง และยังบริการโปรแกรมหนังและรายการทีวีที่ดึงดูดเด็กๆ อย่าง "The Avengers" "Star Wars" "The Simpsons" และ "Toy Story"

ขณะที่ตอนนี้ดิสนีย์อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของแผนการเติบโตของธุรกิจ ประธานกรรมการบริหาร Bob Iger ต้องสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจอย่างอื่นของดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และธุรกิจสร้างหนัง จะสามารถทำกำไรได้เช่นกัน

ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา เมื่อรีสอร์ทเปิดใหม่ในตีม Star Wars: Galaxy’s Edge ที่ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ในอนาไฮม์ แคลิฟอร์เนีย และการปล่อยหนังฟอร์มยักษ์เรื่อง Avengers: Endgame ก็ไม่ได้สร้างผลกำไร เช่นเดียวกับหนังเรื่อง Aladdin และ Toy Story 4

นั่นคือเหตุผลที่หุ้นของดิสนีย์ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนในไตรมาสที่ผ่านมา นับตั้งแต่ทำสถิติสูงสุดที่ระดับ $147.15 เหรียญ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม หุ้นลดลงเกือบ 11% ปิดเมื่อวานนี้ที่ระดับ $131.27 เหรียญ

สรุป

เรายังคงไม่หวังที่จะได้รับ ความประหลาดใจในเชิงบวกจากดิสนีย์ในปีนี้ เนื่องจากบริษัทได้ลงทุนไปในจำนวนมหาศาลทั้งการผนวก Fox เข้ามาและการลงทุนในแพลตฟอร์มอื่นๆ

อย่างไรก็ตามดิสนีย์เป็นแบรนด์ที่ทรงพลังและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาแพกเกจของบริการ Disney+ ที่น่าดึงดูด นอกจากนั้นยังมีรายการทีวีที่มากมาย มีรายการที่นำเสนอคอนเท้นท์ที่มีประโยชน์ให้กับลูกค้า ด้วยเหตุผลเหล่านี้การปรับลดลงของหุ้นดิสนีย์ในช่วงไตรมาสที่ 4 จึงเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะซื้อ

ความคิดเห็นล่าสุด

อย่างไรก็ตามดิสนีย์เป็นแบรนด์ที่ทรงพลังและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาแพกเกจของบริการ Disney+ ที่น่าดึงดูด นอกจากนั้นยังมีรายการทีวีที่มากมาย มีรายการที่นำเสนอคอนเท้นท์ที่มีประโยชน์ให้กับลูกค้า ด้วยเหตุผลเหล่านี้การปรับลดลงของหุ้นดิสนีย์ในช่วงไตรมาสที่ 4 จึงเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะซื้อ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย