รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ปฏิกริยาของตลาดน้ำมันดิบที่มีต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ - อิหร่านสำคัญไฉน?

เผยแพร่ 10/01/2563 16:33
อัพเดท 09/07/2566 17:31

ตลาดราคาน้ำมันดิบเริ่มต้นเปิดศักราชปี 2020 ด้วยความผันผวนที่เกิดจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในอ่าวเปอร์เซีย ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นตามความร้อนแรงของสถานการณ์ทางการเมืองในอีรัก แม้จะดูเหมือนเป็นปัญหาภายในประเทศแต่ปัญหานี้ก็ส่งผลกระทบถึงการผลิตและขนส่งน้ำมัน

อย่างไรก็ตามความผันผวนของราคาน้ำมันนี้ก็ร้อนระอุขึ้นเมื่อมีข่าวว่าสหรัฐฯ ได้สังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่านทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ - อิหร่านขึ้นมาก่อนที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอิหร่านจะเปิดฉากโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ระหว่างทั้งสองประเทศจะเย็นลง

หัวข้อต่อไปนี้ที่พวกเราจะพูดถึงกันเกี่ยวกับปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ปฏิกริยาที่ราคาน้ำมันมีต่อปัจจัยเหล่านั้นและสิ่งที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

สิ่งที่ราคาน้ำมันดิบแสดงให้เห็นผ่านพฤติกรรมราคา

เมื่อวันพุธที่ผ่านมาทันทีที่ตลาดลงทุนฝั่งเอเชียและยุโรปเปิด ราคาน้ำมันดิบก็ดีดตัวขึ้นสูง 4% จากข่าวที่อิหร่านเริ่มเปิดฉากถล่มใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าการถล่มนั้นจะไม่ได้ทำให้ผู้ใดบาดเจ็บล้มตาย หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาทวีตว่า “ทุกอย่างยังคงอยู่ดี!” ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลดกลับลงมา

แม้ว่าจากพาดหัวข่าวที่ออกมาตามสื่อต่างๆ จะดูน่าตกใจจนบางคนหวั่นว่านี่จะเป็นฉนวนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 แต่ราคาน้ำมันดิบที่ควรจะปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงกลับไม่ได้ทำเช่นนั้นเพราะตลาดมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ - อิหร่านยังไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น ยิ่งเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาบอกว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ - อิหร่านเย็นลงแล้ว ราคาน้ำมันดิบ WTI ก็ปรับตัวกลับลงมาเกือบ 5%

กราฟราคาน้ำมันดิบ WTI รายเดือน

ปัจจัยที่น่าคิด? ประการแรกหลังจากที่อิหร่านเปิดฉากโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ด้วยจรวดมิสไซล์ไปแล้ว ราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำแม้ว่าจะปรับตัวขึ้นมาบ้างเล็กน้อยก็ตาม การไม่เคลื่อนไหวของราคาแสดงให้เห็นว่านักลงทุนมองว่าโอกาสที่สงครามใหญ่จะตามมามีน้อย ประการสองหลังจากที่ประธานาธิบดิโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาให้คำแถลงการณ์ ตลาดนักลงทุนก็ดูเหมือนจะมั่นใจมากว่าจะไม่มีสงครามเกิดขึ้น

อย่างที่ดิฉันเคยอธิบายไปแล้วเกี่ยวกับการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันอารามโกในซาอุดิอาระเบีย (SE:2222) เมื่อเดือนพฤศจิกายน แม้ตลาดจะกลัวว่าการโจมตีครั้งนั้นจะส่งผลกระทบต่อน้ำมันปริมาณหลายล้านบาร์เรลแต่กราฟราคาน้ำมันดิบในตอนนั้นกลับแทบไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ที่สำคัญเลยแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจว่าไม่มีสงครามแน่นอนหรือปัจจัยที่จะเข้ามาทำให้ตลาดน้ำมันดิบแย่ลงนั้นมีน้อย

สาเหตุที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวกลับลดลงมาได้เลยหลังจากที่ทรัมป์แถลงเมื่อวันพุธเป็นเพราะทรัมป์สามารถทำให้ตลาดเชื่อได้จริงๆ ว่าโอกาสที่เกิดสงครามมีน้อย

ก่อนการโจมตีด้วยมิสไซล์ในคืนวันอังคารตลาดยังอยู่ในความวิตกว่าการสังหารนายพลเพียงหนึ่งคนจะส่งผลกระทบต่อทั้งโลกได้มากแค่ไหน แต่ตอนนี้ทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสถานการณ์นั้นคลี่คลายได้เมื่อเวลาผ่านไป ตลาดการลงทุนเริ่มกลับมาเป็นปกติ นักลงทุนหันไปสนใจตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรครั้งแรกของปี 2020 ราคาน้ำมันดิบเริ่มลดตัวกลับลงมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น

ตลาดกำลังประมาทปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์เกินไปหรือเปล่า?

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าตอนนี้ตลาดกำลังประเมินความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ต่ำไป อย่างไรก็ตามเมื่อนำข้อมูลของสถานการณ์ความตึงเครียดในตอนนี้มาเทียบกับความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้ากลับพบว่าผลลัพธ์ที่ได้และการตอบสนองของตลาดนั้นมีความคล้ายคลึงกัน เหตุผลที่การเปรียบเทียบนี้พลาดเป็นเพราะปริมาณอุปสงค์กับอุปทานในตลาดเมื่อปี 1990 ปี 2003 เมื่อเทียบกับตอนนี้ต่างกันเกินไปอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนที่จะเกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียและตอนที่สหรัฐฯ รุกรานอิรัก ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและนักลงทุนให้ความสนใจประเมินสถานการณ์เป็นอย่างมาก

อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเป็นการรับประกันเลยว่ามาตรฐานการดูแลอุตสาหกรรมพลังงานเหล่านี้ของสหรัฐฯ ดีขึ้นนับตั้งแต่ปี 1960 อย่างไร ที่สำคัญคือโลกยังมีปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเพียงพอต่อการบริโภคโดยไม่ต้องพึ่งพาเพียงแต่กลุ่มโอเปกเพียงอย่างเดียวต่อไป จนตอนนี้กลายเป็นว่าโลกต้องปวดหัวกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทีเหมือนจะเริ่มมีมากเกินไปด้วยซ้ำโดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)

อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์ยังคงมองว่าน้ำมันจะยังเป็นเป็นทรัพยากรที่โดยรวมแล้วทุกๆ ระบบเศรษฐกิจในโลกปี 2020 ต้องการอยู่ดีแม้ว่าจะมีปัจจัยเรื่องการเซ็นสัญญาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนในขั้นแรกเข้ามาเป็นปัจจัยตัวแปร ในระยะสั้นเชื่อว่านักเศรษฐศาสตร์เหล่านี้จะยังคงหาข้อพิสูจน์มาเปรียบเทียบให้ได้ถึงความแตกต่างของตลาดในวันนี้กับอดีตทั้งที่ความเป็นจริงปัจจัยพื้นฐานในวันนี้กับเมื่อก่อนนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ภัยซ่อนเร้นที่ควรจับตาดู

แม้ดูเหมือนว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ - อิรักจะลดลงไปแล้วแต่คลื่นใต้น้ำที่แท้จริงแล้วกลับอยู่ที่การผลิตน้ำมันของอิรัก

อุตสาหกรรมการส่งออกน้ำมันในอีรักสามารถแบ่งออกได้เป็นสองภูมิภาคคือส่งออกจากทางตอนเหนือและทางตอนใต้ ทางตอนเหนือรัฐบาลระดับภูมิภาคอิรักเคอร์ดิสถานเป็นผู้ส่งออกน้ำมันซึ่งได้มาจากท่าในเมืองเซฮาน ตุรกี แต่ส่วนใหญ่แล้วการส่งออกน้ำมันของอีรักเกิดขึ้นที่ทางตอนใต้ของประเทศที่บริเวณอ่าวเปอร์เซียซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองในบริเวณนั้นยังคงเป็นที่น่ากังวลเพราะอิหร่านมักจะเข้ามามีส่วนร่วมในปัญหาบริเวณนี้ด้วยเสมอ ยังมีความเป็นไปได้อยู่ตลอดว่าความขัดแย้งระหว่างสองชาติในพื้นที่บริเวณนี้จะกระทบต่อกระบวนการผลิตน้ำมันดิบและการส่งออกของโลกด้วย

ถึงการชะลอตัวหรือการปิดโรงกลั่นและส่งออกน้ำมันของอีรักจะไม่ส่งผลเท่าไหร่กับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ - อิหร่านแต่อิหร่านอาจนำประเด็นนี้มาผูกกันและนำไปสู่การโจมตีอีรักได้และจะกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของอีรักแน่นอน ดังนั้นแล้วจึงประมาทไม่ได้เลย

อิรักถือเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่และเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปกในลำดับที่ 5 (ตอนนี้อาจจะเป็น 4 แล้ว) ซึ่งน้ำมันที่อีรักส่งออกเป็นน้ำมันในรูปแบบที่ตลาดโลกต้องการ ถ้าความขัดแย้งเกิดขึ้นในอีรักและส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศแน่นอนว่าตลาดน้ำมันโลกย่อมจะได้รับผลกระทบตามไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย