รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

กราฟเด่นประจำวันนี้: ตลาดหวังให้ทองคำทะยานขึ้นสู่ $1,700

เผยแพร่ 03/03/2563 11:55
อัพเดท 09/07/2566 17:31

การกอดคอพากันลงระหว่างราคาทองคำกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันศุกร์สัปดาห์ที่แล้วสร้างความสับสนให้กับนักลงทุนและนักวิเคราะห์เป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ECL SALES ถึงกับออกมาพูดว่า “ทองคำขึ้นดอลลาร์ลงคือเรื่องปกติ แต่การที่ทองคำลงดอลลาร์ลงก็คือคือเรื่องอะไร!!!”

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าสาเหตุของการร่วงลงในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่ดีขึ้นแต่เป็นเพราะดอลลาร์เมื่อถูกลงทำให้คนไม่มีศักยภาพพอที่จะนำดอลลาร์ไปแลกกับกับทองคำที่มีมูลค่าสูงขนาดนั้น เมื่อความสามารถในการซื้อทองคำเพื่อถือครองลดลงจึงทำให้ราคาทองคำปรับตัวร่วงกลับลงมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น

“นอกจากผู้คนไม่สามารถใช้ดอลลาร์ที่อ่อนมูลค่าลงในการซื้อทองได้แล้วราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายังถูกเทขายจากความวิตกของนักลงทุนที่กลัวว่าราคาทองคำได้ขึ้นมาสูงเกินไป ถึงเวลาที่ทองคำต้องกลับลงสู่ความเป็นจริงบ้างก็เท่านั้น” นายแอนโทนี่ แดนลานี่ กล่าว

แต่จะเป็นไปได้อีกหรือไม่ที่นักลงทุนกลุ่มเดิมๆ จะเชื่อว่าทองคำยังคงมีความต้องการอยู่ในตอนนี้? การซื้อทองคำในตอนนี้จะพาให้ราคาทองคำสามารถทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของราคาเมื่อปี 2012 ได้หรือไม่? หรือต่อให้ทำได้การดีดตัวกลับขึ้นไปของราคาทองคำในรอบนี้คือของจริงหรือแค่หลอกนักลงทุนให้เชื่อว่าในช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายให้ถือทองคำเอาไว้ก่อน?

ตอนนี้นักลงทุนต่างคาดหวังให้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมาแต่ในขณะเดียวกันก็คาดหวังให้ตลาดหุ้นเป็นเช่นนั้นด้วย ถามว่าในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นไหม? คำตอบคือเคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ถ้าจะให้แน่ใจจริงๆ ว่าทองคำจะสามารถขึ้นต่อไปได้ต้องรอให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก่อนในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้จึงจะสามารถยืนยันได้ว่าขาขึ้นของทองคำมีอนาคตแน่นอนกราฟราคาทองคำสปอตรายวัน

ราคาทองคำร่วงลงจากจุดสูงสุดในรอบ 7 ปีลงมาสู่แนวรับซึ่งเป็นจุดสูงสุดระหว่างเดือนสิงหาคม - กันยายนและยังมีเส้นค่าเฉลี่ย 50DMA ทำหน้าที่เป็นแนวรับสำรองให้อีกหนึ่งแนว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ลงมาถึงโซนราคาบริเวณนี้และมีปฏิกริยาดีดกลับทันทีและในวันจันทร์ช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิดราคาทองคำก็มุ่งหน้าขึ้นต่อจนสามารถขึ้นมาได้ครึ่งแท่งของแท่งเทียนขาลงเมื่อวันศุกร์ สร้างรูปแบบ Peak & Trough อย่างสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง

หากวิเคราะห์จากกราฟเพียงลำพังจะพบว่าทั้งแท่งเทียน เส้นค่าเฉลี่ยและรูปแบบการวิ่งของราคาล้วนแล้วแต่จะทำให้นักลงทุนเชื่อว่านี่คือรูปแบบของกราฟขาขึ้น แต่เมื่อพิจารณาอินดิเคเตอร์อย่าง MACD และ RSI จะพบว่าอินดิเคเตอร์ทั้งสองยังให้สัญญาณของขาลงอยู่ การที่กราฟและอินดิเคเตอร์ให้ข้อมูลไม่ตรงกันแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังไม่มีความเชื่อมั่นในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมากพอ ดังนั้นในช่วงเวลาเช่นนี้เราจึงอยากสรุปว่าให้เชื่อรูปแบบของราคา (price action) เอาไว้ก่อนที่จะเชื่ออินดิเคเตอร์

กลยุทธ์การเทรด

เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่ากราฟและอินดิเคเตอร์ให้สัญญาณไปในทิศทางเดียวกันและจะรอให้สถานการณ์ระหว่างตลาดทองคำและตลาดหุ้นกลับเป็นปกติ (ทองคำขึ้นหุ้นต้องลง) นอกจากนี้ยังจะรอให้อินดิเคเตอร์อย่าง RSI และ MACD ส่งสัญญาณของขาขึ้นด้วย

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะลองเสี่ยงเข้าซื้อต่อเมื่อราคาลงไปถึงระดับราคา $1,570 ซึ่งเป็นแนวรับของจุดต่ำสุดเมื่อวานหรืออย่างน้อยลงไปถึง $1,590 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเข้าซื้อเลยเมื่อต้องการโดยรับทราบถึงความเสี่ยงในกรณีที่กราฟปรับตัวลดลงอีกหนึ่งรอบ

ตัวอย่างการเทรด

- จุดเข้า: $1.600

- Stop-Loss: $1,570

- ความเสี่ยง: $30

- เป้าหมายในการทำกำไร: $1,690

- ผลตอบแทน: $90

- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย