รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์นี้: Boeing, Walgreens, Constellation Brands

เผยแพร่ 30/03/2563 15:58
อัพเดท 09/07/2566 17:31

ยังคงเป็นสัปดาห์ที่นักลงทุนต้องจับตาดูทิศทางของตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิดซึ่งในสัปดาห์นี้ตลาดลงทุนมีความเป็นไปได้ทั้งจะกลับตัวขึ้นหรืออาจจะปรับตัวลดลงต่อ แม้กฎหมายกระตุ้นและเยียวยาทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มูลค่า $2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐจะถูกเคาะออกมาและมีผลบังคับใช้ไปแล้ว แต่ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ (ในขณะที่กำลังเขียนบทความ) แซงหน้าประเทศจีนขึ้นสู่อันดับหนึ่งของโลกเป็นที่เรียบร้อยด้วยตัวเลขยืนยันผู้ติดเชื้อ 125,000 ราย

 

ดัชนีดาวโจนส์ในสัปดาห์ที่แล้วสามารถสร้างสถิติปรับตัวสูงขึ้นดีที่สุดสามวันติดนับตั้งแต่ปี 1938 หลังจากที่ดาวโจนส์และตลาดหุ้นต้องอยู่ในตลาดขาลงมานาน ถึงกระนั้นในช่วงก่อนปิดตลาดราคาก็ได้วกกลับลงมาอีกครั้งจากความกลัวของนักลงทุน ดัชนีวัดความผันผวนของ CBOE ยังคงยืนเหนือระดับตัวเลข 60 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทะยานขึ้นไปแตะตัวเลข 80 สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของดัชนีเรียบร้อยแล้ว

 

ท่ามกลางสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความแน่นอนเช่นนี้ เรายังคงมี 3 หุ้นที่นักลงทุนควรจับตามองในสัปดาห์นี้อยู่เช่นเคยเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วอาจส่งผลถึงความเคลื่อนไหวของหุ้น 3 ตัวนี้

 

1. Boeing

 

บริษัทโบอิ้ง (NYSE:BA) ดูจะเป็นบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์เพราะชุดเยียวยานี้พอจะทำให้บริษัทสามารถต่อลมหายใจกับซัพพลายเออร์และประคองข่าวโรงงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินที่เป็นข่าวนับตั้งแต่เครื่องบิน 737 MAX ตกในปีที่แล้วต่อไปได้

 

กฎหมายที่สภาได้อนุมัติไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังครอบคลุมไปถึงการช่วยเหลือซัพพลายเชนและยังสามารถทำให้ลูกค้าของสายการบินสามารถอยู่กับธุรกิจของโบอิ้งต่อไปได้ เงินจำนวน $1700 ล้านเหรียญถูกโอนมาให้บริษัทกู้ยืมโดยตรงเพราะนอกจากจะเป็นการพยุงโบอิ้งเอาไว้ยังเป็นการพยุงความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ ด้วย

 

 

 

โฆษกของบริษัทโบอิ้งได้ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า “โบอิ้งกำลังพิจารณาตัวเลือกในทุกๆ ทางและบริษัทของเราจะยังไม่เดินทางไปถึงจุดที่บริษัทต้องล้มละลายจนรัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือและต้องขายหุ้นบริษัทให้กับรัฐบาล”

 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นบริษัทโบอิ้งดีดกลับขึ้นมายัง $162 หลังจากร่วงไปที่ $95.01 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม อย่างไรก็ตามภาพรวมการเติบโตของบริษัทส่วนใหญ่ยังคงขึ้นอยู่กับว่าเครื่องบิน 737 MAX จะสามารถกลับขึ้นไปบินบนฟ้าได้เมื่อไหร่

 

2. Walgreens

 

บริษัทร้านยาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศสหรัฐอเมริกาวอลล์กรีน (NASDAQ:WBA) จะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ในวันที่ 2 เมษายนก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) จะอยู่ที่ $1.46 และมีรายได้รวมทั้งหมด $3,527 ล้านเหรียญสหรัฐ  ล่าสุดวอลล์กรีนพึ่งมีมาตรการลดต้นทุนในการขนส่งด้วยรถยนต์เพราะไม่สามารถสู้การแข่งขันแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอมะซอน (NASDAQ:AMZN) และบริษัทอื่นๆ ได้

 

 

 

ราคาปิดของหุ้นวอลล์กรีนเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ $44 ปรับตัวลดลงมา 4% ในวันเดียว ปีนี้มูลค่าหุ้นของบริษัทลดลงในไตรมาสที่แล้วเพราะมีรายงานว่านักลงทุนขายหุ้นบริษัทเพื่อรอไปซื้อในจุดที่ต่ำกว่านี้ วอลล์กรีนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบการขายมาเป็นออนไลน์และลดสาขาของร้านค้าปลีกลง ในช่วงซัมเมอร์ครั้งล่าสุดวอลล์กรีนได้ปิดสาขาไปแล้ว 200 สาขาจากที่ก่อนหน้านี้เคยปิดร้านไป 750 สาขา

 

3. Constellation Brands

 

ในวันศุกร์ที่ 3 เมษายนที่กำลังจะถึงนี้บริษัทเจ้าของเบียร์ชื่อดังอย่าง “โคโรนา (ที่ไม่ใช่โควิด-19)” (NYSE:STZ) จะรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ปี 2020 นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) จะอยู่ที่ $1.64 และมีรายได้รวมทั้งหมด $180 ล้านเหรียญสหรัฐ 

 

รายงานผลประกอบการของบริษัท Constellation เมื่อไตรมาสก่อนหน้านี้มียอดขายที่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ไปได้ หลังจากนั้นบริษัทก็ได้เพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสนี้ขึ้นรวมทั้งยังประโคมโฆษณาเบียร์นำเข้าอย่าง Modelo Mexican และเครื่องดื่มอื่นๆ ในเครืออย่างหนัก

 

 

 

ถึงไตรมาสที่แล้วตัวเลขผลประกอบการจะออกมาดีแต่บริษัทก็ต้องเจอคู่แข่งจากแคนาดานาม Canopy Growth (NYSE:CGC) เข้ามากดดันและพยายามแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างหนักด้วยเครื่องหมายการค้าอย่างกัญชาที่สร้างยอดขายที่ดีในประเทศแคนาดา ถือเป็นความท้าทายของบริษัทเจ้าของเบียร์โคโรนาอย่างยิ่ง

 

ราคาหุ้นล่าสุดของ Constellation ร่วงลงมากกว่า 17% ในช่วง 4 สัปดาห์ล่าสุด นอกจากชื่อเบียร์จะเหมือนชื่อไวรัสโคโรนาที่กำลังทำร้ายเศรษฐกิจทั่วโลกในตอนนี้ยังกระทบต่อยอดขายของบริษัทอีกด้วย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นบริษัทปรับตัวขึ้น 3% และมีราคาปิดอยู่ที่ $144.88

 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย