รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 เหตุผลว่าทำไมบิทคอยน์ถึงมีโอกาสจะทะยานสูงขึ้น

เผยแพร่ 25/05/2563 18:23
อัพเดท 09/07/2566 17:31

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: CQG

- นักลงทุนชื่อดังมองว่าบิทคอยน์จะปรับตัวสูงขึ้น
- มูลค่าทางการตลาดของสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินดิทิทัลลดลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017
- 3 เหตุผลสนับสนุนว่าทำไมบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ จะเข้าสู่ช่วงขาขึ้น

ย้อนกลับไปในปี 2010 ในตอนที่ยังไม่มีใครรู้จักว่าสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี่คืออะไร ในตอนนั้นเหรียญคริปโตเคอเรนซี่แรกของโลกหรือบิทคอยน์มีราคาอยู่่เพียง 6 เซนต์ต่อหนึ่งเหรียญเท่านั้น แม้แต่ในปี 2011 คนส่วนใหญ่ก็ยังเข้าใจว่าบิทคอยน์เป็นแค่เกมอะไรสักอย่างหรือเป็นแค่กิจกรรมตามล่าขุมสมบัติเท่านั้น

ถามว่าทำไมถึงคิดว่าเป็นแค่เกมล่าสมบัติ? เพราะเรามักจะได้ยินคนที่รู้จักบิทคอยน์พูดว่า “ไปขุดเหมืองบิทคอยน์กันไหม?” อยู่เป็นประจำ ในยุคนั้นนักขุดเหมืองบิทคอยน์ใช้พลังการประมวลผลของคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาลในการขุด อย่างน้อยได้สักเหรียญสองเหรียญก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ในปี 2012 ถือเป็นครั้งแรกที่เหรียญบิทคอยน์มีมูลค่าเกิน $10 และในปี 2013 ก็ได้ขึ้นมาถึง $100 จนกระทั่งผู้คนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น ปี 2014 คนเริ่มวิเคราะห์ว่าบิทคอยน์จะกลายเป็นวิกฤตฟองสบู่ทิวลิป (Tulip Mania) ของยุคใหม่เมื่อบิทคอยน์สามารถมีราคาขึ้นไปได้มากถึง $950 ต่อเหรียญในการขายผ่าน exchange ในตำนานที่มีชื่อว่า Mt. Gox

จากวันนั้นจนถึงปัจจุบันกราฟบิทคอยน์ไม่เคยร่วงลงไปต่ำกว่า $200 อีกเลยและสกุลเงินดิจิทัลก็ได้ฤกษ์เปิดตัวให้มนุษยชาติได้รู้จักอย่างเป็นทางการครั้งแรก ผู้คนสามารถนำบิทคอยน์ไปซื้อขายสิ่งของที่ต้องการได้โดยที่รัฐบาลและธนาคารกลางไม่สามารถทำอะไรได้

และในปี 2017 คือปีที่บิทคอยน์ได้ทำให้ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักกับบิทคอยน์จริงๆ เมื่อมูลค่าของบิทคอยน์สามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดได้มากถึง $17,500 ต่อ 1 เหรียญบิทคอยน์ มูลค่าทางการตลาดของสกุลเงินดิจิทัลนี้ขึ้นสูงถึง $800,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หลังจากนั้นในปี 2018 และ 2019 เราก็เห็นกับตาเมื่อมูลค่าที่เกือบขึ้นไปแตะ $20,000 ได้กลับร่วงลงมามีมูลค่าเหลือเพียง $3,000 เท่านั้น ต่อมาจนถึงปัจจุบันบิทคอยน์ค่อยๆ ปรับตัวขึ้นกระทั่งกลับขึ้นมาจ่ออยู่ที่ด่านแนวต้าน $10,000 อีกครั้ง

นักลงทุนในตำนานเชื่อว่าบิทคอยน์จะปรับตัวสูงขึ้นได้มากกว่านี้

ท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งให้ตลาดลงทุนทั่วโลกร่วงลงสู่จุดต่ำสุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคม ตอนนั้นราชาสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ก็มุ่งหน้าลงสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2019 ด้วยเช่นกัน BTC/USD Weekly

จากกราฟตลาดซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้าในตลาด CME ชี้ให้เห็นว่ามูลค่าของบิทคอยน์ค่อยๆ ปรับตัวขึ้นอย่างมั่นคงจากระดับราคา $4,210 เมื่อปีที่แล้วจนสามารถกลับขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ล่าสุดในปี 2020 ได้ที่ $10,220 ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม Paul Tudor Jones นักลงทุนและผู้จัดการกองทุนชื่อดังเผยว่าเขาซื้อบิทคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ที่เอาไว้คานกับอัตราเงินเฟ้อของเงินปกติ และยังบอกอีกด้วยว่าบทบาทของบิทคอยน์ในตอนนี้ทำให้เขานึกถึงทองคำในสมัยปี 1970

ในวันที่ 22 พฤษภาคมกราฟบิทคอยน์มีราคาเทรดอยู่ต่ำกว่า $9,200 ความเห็นจากนักลงทุนในตำนานทำให้เทรดเดอร์กลับมาสนใจในสกุลเงินดิจิทัลอีกครั้ง จากกราฟรายสัปดาห์จะเห็นว่าจำนวนออเดอร์ของคนที่เข้ามาถือสัญญาซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้นจาก 3,621 สัญญาในช่วงปลายเดือนมีนาคมเป็น 9,592 สัญญาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มูลค่าของบิทคอยน์ปรับตัวสูงขึ้น

มูลค่าทางการตลาดของสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินดิทิทัลลดลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017

ในช่วงที่บิทคอยน์ทะยานขึ้นสูงสุดช่วงปลายปี 2017 และมีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า $800,000 ล้านเหรียญ ผู้ที่ศรัทธาในบิทคอยน์มองว่ามูลค่าทางการตลาดของบิทคอยน์อาจขึ้นถึง $1,000,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐได้เลยด้วยซ้ำ ในตอนนั้นก็มีสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เกิดขึ้นมามากกว่า 2,000 สกุลเงิน

จากมูลค่าทางการตลาด $800,000 ล้านเหรียญในวันนั้นกลับเหลือเพียง $256,300 ล้านเหรียญในวันนี้กับสกุลเงินดิจิทัลอีก 5,500 สกุลเงิน จะเห็นได้ว่ามูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลหายไปเกินครึ่งแต่แลกมากับสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 2 เท่า ในช่วงที่บิทคอยน์ร่วงลงมาจากจุดสูงสุด $19,783 เมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 มีสกุลเงินดิจิทัลมากมายที่ล้มหายตายจาก มูลค่าทางการตลาดของบิทคอยน์ตอนนั้นเหลือเพียง $169,400 สหรัฐแต่ยังมีมูลค่าคิดเป็น 66% ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด

3 เหตุผลสนับสนุนว่าทำไมบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ จะเข้าสู่ช่วงขาขึ้น

ในความเห็นของผมเชื่อว่ากราฟบิทคอยน์อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแต่ในเวลาเดียวกันขาขึ้นนี้ก็ต้องขึ้นท่ามกลางความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจ หากว่าในอนาคตผมจะได้เห็นกราฟบิทคอยน์ร่วงลงสู่ $4000 อีกครั้งหรือทะยานขึ้นสู่ $20,000 ภายในสิ้นปีนี้ก็จะไม่รู้สึกแปลกใจเลย ส่วนตัวแล้วผมเชื่อในฝั่งขาขึ้นมากกว่าด้วยเหตุผล 3 ข้อ

1.) การวิเคราะห์ของ Paul Tudor Jones ที่พูดถึงไปก่อนหน้านี้
2.) การเข้ามาของโควิด-19 ที่ทำให้คนหันไปพึ่งพาระบบออนไลน์มากขึ้น แม้แต่การทำธุรกรรมยังต้องทำผ่านมือถือ
3.) นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางและรัฐบาลกลางยิ่งทำให้สกุลเงินปกติไม่มีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ และการปรับตัวอย่างรวดเร็วของคนในยุคนี้ทำให้ผมเชื่อว่าเราพร้อมที่จะหันไปใช้สกุลเงินทางเลือกหากจำเป็น

เรื่องของโควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งปฏิกริยาให้มนุษยชาติจำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้สหรัฐฯ จำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างกับการทำสกุลเงินดอลลาร์ให้เป็นดิจิทัลแล้วเมื่อจีนมีความพยายามอย่างมากในการผลักดันหยวนดิจิทัลให้เกิดขึ้นจริง แม้ว่าความพยายามของภาครัฐที่จะสกัดกั้นการใช้งานของคริปโตเคอเรนซี่จะเป็นอุปสรรคแต่เมื่อมีสกุลเงินหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้ใช้งานโอนเงินข้ามทวีปได้โดยไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมมากเท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คำถามคือทำไมคนจะไม่กล้าเปลี่ยนไปใช้เงินดิจิทัล? ยิ่งไปกว่านั้นการที่สัญญาซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้นจาก 3,621 สัญญาในช่วงปลายเดือนมีนาคมเป็น 9,592 สัญญายิ่งทำให้มูลค่าของบิทคอยน์เพิ่มสูงขึ้น

ตอนนี้กราฟบิทคอยน์ได้จ่ออยู่ที่หน้าด่านแนวต้าน $10,000 และเหลือเพียงปัจจัยแห่งเวลาเท่านั้นก่อนที่ราคาจะสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวได้และมุ่งหน้าขึ้นสู่แนวต้านถัดไปที่ $13,915 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของราคาเดือนมิถุนายนปี 2019 หากว่าเราโชคดีพอก็อาจจะได้เห็นบิทคอยน์ที่ $20,000 ได้ภายในสิ้นปี 2020

ความคิดเห็นล่าสุด

เกิน20,000ละค่ะตอนนี้ปาไป24,000แล้ว สุดยอด
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย