รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้นที่ได้เปรียบจากการกลับมาเปิดเมืองของสหรัฐฯ

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 08/06/2563 18:33
อัพเดท 02/09/2563 13:05

การที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) สามารถกลับมาเป็นบวกได้อีกครึ่งยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้หลุดช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของโควิด-19 มาแล้ว ในขณะที่รัฐฯ ต่างๆ เริ่มทยอยเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจให้สามารถทำมาค้าขายได้ตามสมควร นักลงทุนก็เริ่มโยกเงินกลับมาสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง หมายความว่าภาคส่วนต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้เจอพิษโควิด-19 เข้าไปอย่างเช่น สายการบิน ค้าปลีก พลังงานกำลังกลับมาและปรับตัวสูงขึ้น

ในบทความนี้เราจะมาแนะนำหุ้นที่เชื่อว่ากำลังฟื้นตัวกลับมาและมีแนวโน้มจะมีผลงานที่ดีขึ้นตามข้อมูลทางเศรษฐกิจที่จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

1. Lyft

ธุรกิจการร่วมเดินทางไปในเส้นทางเดียวกันด้วยรถคันเดียวถือเป็นกลุ่มธุรกิจแรกๆ ที่สามารถสัมผัสได้ว่ากำลังหลุดออกจากช่วงวิกฤตล็อคดาวน์เพราะโวควิด-19 แล้ว เมื่อมาตรการสำหรับการเดินทางเริ่มผ่อนปรนลง ผู้คนจึงเริ่มกลับมาเดินทางกันมากขึ้น Lyft (NASDAQ:LYFT) ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าตัวเลขยอดผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มของบริษัทในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับตัวเลขของเดือนที่แล้ว เหตุผลหลักที่ตัวเลข 26% สามารถกลับมาได้เพราะมาตรการผ่อนปรนของรัฐที่อนุญาตให้มีการเดินทางเพิ่มมากขึ้น

LYFT Weekly TTM

“การผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคระบาดของภาครัฐในช่วง 3 สัปดาห์ล่าสุดส่งผลกับอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานบนแอปพลิเคชันของ Lyft อย่างมีนัยสำคัญ” Lyft กล่าว เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนหุ้น Lyft กระโดดขึ้นมา 7%  และมีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $38.61 จากจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมตอนนี้หุ้น Lyft ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 2 เท่าและนักวิเคราะห์ยังบอกอีกว่า Lyft ยังมีโอกาสเติบโตไปได้มากกว่านี้อีก

นาย Youssef Squali นักวิเคราะห์จาก SunTrust Robinson ปรับอัตราความน่าสนใจของหุ้น Lyft เพิ่มขึ้นและยังปรับระดับเป้าหมายราคาหุ้น Lyft ขึ้นเป็น $49 พร้อมกับให้เหตุผลว่า “หุ้น Lyft มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องเพราะจากนี้ไปภาครัฐจะยิ่งผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคระบาดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันตกที่ Lyft เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้ใช้งาน ข้อได้เปรียบนี้จะช่วยให้ Lyft มีตัวเลขผลประกอบการแบบปีต่อปีเพิ่มมากขึ้น”

2. Chevron

บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากความรันทดช่วงโควิด-19 กลายเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อประเทศผู้ผลิตน้ำมันหันมาร่วมมือร่วมใจกันลดกำลังการผลิตน้ำมันอย่างจริงจัง ล่าสุดโอเปกและรัสเซียพึ่งเห็นชอบที่จะยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิตฯ ออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ก่อนหน้านี้ร่วงลง 36% กำลังไต่กลับขึ้นมาเรื่อยๆ จนเมื่อวันศุกร์ที่แล้วมีราคาปิดยืนเหนือ $40 ต่อบาร์เรลได้สำเร็จCVX Weekly TTM

ท่ามกลางบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ Chevron (NYSE:CVX) อยู่ในตัวเลือกที่ดีกว่ามากเมื่อเทียบกับบริษัทผู้ผลิตน้ำมันอื่นอย่างเช่น Exxon (NYSE:XOM) เพราะ Chevron ได้เตรียมตัวตั้งรับกับช่วงเวลาวิกฤตที่ผ่านมาเป็นอย่างดีด้วยการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนกับก๊าซธรรมชาติเมื่อปีที่แล้ว

ด้วยกลยุทธ์อันชาญฉลาดของบริษัททำให้หุ้น Chevron ดีดตัวกลับขึ้นมาได้เร็วกว่าหุ้นของ Exxon จากจุดต่ำสุดในวันที่ 23 มีนาคม มีราคาเทรดล่าสุดอยู่ที่ $100.81 จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ร่วงลง 36% ปัจจุบันสามารถขึ้นมาจนมีตัวเลขติดลบอยู่ 16% ตลอดทั้งปี 2020 ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขการปันผลรายปีของบริษัทขึ้นเป็น 5.36% ในระยะยาวหุ้นของ Chevron ถือเป็นตัวเลือกที่มีเสถียรภาพมากและได้เปรียบจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

3. Qualcomm

หุ้นกลุ่มชิปคอมพิวเตอร์ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่สามารถทำกำไรได้ในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา หลายบริษัทเห็นความสำคัญของโลกเทคโนโลยีหลังจากผ่านยุคโควิดไปและต้องการชิปคอมพิวเตอร์ในการสร้างศูนย์กลางข้อมูลด้วยระบบคลาวด์ภายในองค์กรของตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจเกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกันในช่วงโควิด-19

อย่างไรก็ตามตอนนี้บริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์กำลังต้องก้าวผ่านอุปสรรคอีกครั้งเมื่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนยังคงพร้อมจะเพิ่มความตึงเครียดอยู่ตลอดและการอยู่บ้านของผู้คนเริ่มลดลงเมื่อหลายๆ รัฐ หลายๆ ประเทศทั่วโลกเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติกันอีกครั้ง

QCOM Weekly TTM

ถึงกระนั้นนายคริสโตเฟอร์ เดนลีย์นักวิเคราะห์จาก Citigroup มองว่าบริษัท Qualcomm (NASDAQ:QCOM) ต่างออกไปและจะยิ่งมีความได้เปรียบกว่าบริษัทอื่นๆ หากว่าเทคโนโลยี 5G สามารถเกิดขึ้นจริงได้ภายในช่วงหน้าหนาวปีนี้ “ถ้าในเดือนกันยายนนี้บริษัทแอปเปิลสามารถเปิดตัวไอโฟน 12 ที่สามารถใช้งาน 5G ได้ขึ้นมาจริงๆ วันนั้นจะเป็นวันที่ Qualcomm ได้รับประโยชน์ไปด้วยเต็มๆ”

นายเควิน คาสซิดี้นักวิเคราะห์จาก Rosenblatt Securities มองว่า Qualcomm คือผู้ผลิตชิปที่เชียวชาญในการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ นอกจากจะได้ประโยชน์จากการมาถึงของไอโฟน 5G เท่านั้นแต่ถ้าเกิดขึ้นจริง Qualcomm จะกลายเป็นที่สนใจจากบริษัททั่วโลกที่ต้องการลงทุนสร้างมือถือ 5G

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย