การรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2020ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐจะเปิดฉากขึ้นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้รายงานหุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ของวอลล์สตรีทกําลังถูก จับตา รวมทั้งผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทบนกระดาน S&P500 ซึ่งคาดว่าจะปรับลงเกือบ 44% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการร่วงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2008
นอกจากนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ นักกลยุทธ์การลงทุนระดับสูงของ BNP Paribas Asset Management ประเมินว่า กําไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเอเชียจะไม่หวนคืนสู่ระดับก่อนวิกฤติจนกว่าจะถึงไตรมาส 3 ของปี 2021 พร้อมลดคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทเอเชียเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.
แนวโน้มดังกล่าวทําให้มุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยระยะสั้นแนะนํานักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัว หากราคาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,803-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดโซน 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจจะชะลอการเข้าซื้อ หรือตัดขาดทุน ขณะที่ราคาขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้แนะนําขายทองคําออกมาเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากผ่านได้สามารถชะลอการขายไปที่แนวต้านถัดไป
แนวโน้ม Gold Spot: หากการอ่อนตัวลงของราคาทองคําสามารถรักษาระดับ เหนือบริเวณแนวรับ 1,803-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจได้เห็นการดีดตัวกลับ ขึ้นไปบริเวณแนวต้าน 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาผ่านแนวต้านดังกล่าวได้จะทําให้ราคายังคงปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป โซน 1,827-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำ SPOT XAU/USD
ดูความเคลื่อนไหวราคาทองคำ Gold Spot ล่าสุดได้ที่
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กลยุทธ์ Gold Futures: LongPosition ปิดสถานะหากราคาดีดตัวขึ้นมาและไม่ผ่านแนวต้าน 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านไปได้ให้ชะลอไปปิดสถานะบริเวณแนว ต้านถัดไปโซน 1,827-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา>> สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ล่าสุด
https://th.investing.com/commodities/gold
Short Position สามารถถือต่อได้หากราคาหลุดแนวรับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไปรอลุ้นปิดสถานะทํากําไรบริเวณแนวรับถัดไป 1,789 ดอลลาร์ต่ออออนซ์
Open New รอดูบริเวณ 1,803-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุด สามารถเข้าซื้อเก็งกําไรระยะสั้นเพื่อขายทํากําไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนว ต้าน 1,818-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวดังกล่าวให้รอซื้อ บริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด)
บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION