บรรยากาศการลงทุนถูกกดดันจาก Dow Jones ที่อ่อนตัวลง 1.3% หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วจำนวน 1.4 ล้านรายสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่เพียง 1.3 ล้านรายกอปรกับสถานการณ์ COVID -19 ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันล่าสุดเร่ง ตัวขึ้นมาสูงถึง 2.8 แสนคน / วันทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เกิดโรค COVID -19 ขณะเดียวกันคาดเจอแรงขายป้องกันความเสี่ยงก่อนวันหยุดยาวโดยตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการอีกครั้งในวันพุธ
ด้านปัจจัยในประเทศ วันนี้กระทรวงพาณิชย์จะมีกำหนดรายงานตัวเลขการค้า ระหว่างประเทศ Bloomberg Consensus คาดมูลค่าส่งออกและนำเข้าประจำเดือน มิ.ย.จะหดตัวราว 15 %YoY และ 17 %YoY ตามลำดับหากออกมาดีกว่าคาดมองว่าจะเป็นแรงหนุนต่อบรรยากาศการลงทุนได้ อย่างไรก็ตามหากต่ำกว่าคาดจะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนได้
ทั้งนี้อิงข้อมูลการส่งออกย้อนหลัง 5 เดือนพบว่าสินค้าส่งออกที่เห็นการเติบโตต่อเนื่อง 5 เดือนได้แก่ไก่สดแช่เย็นและไก่สดแช่แข็งซึ่งเดือน มิ.ย. เราคาดว่าจะโตต่อเนื่องจากการที่ปัจจุบันผู้ผลิตไก่รายใหญ่ของโลกอย่างบราซิล และสหรัฐ (ครองส่วนแบ่งการตลาด 2 อันดับแรก) กำลังประสบปัญหาการระบาด COVID -19 ส่งผลให้ผู้บริโภคไก่อย่างประเทศญี่ปุ่นและจีนหันมาสั่งไก่จากประเทศไทย มอง CPF TFG ได้ประโยชน์สูงสุด ดังนั้นเชิงกลยุทธ์การลงทุนในวันที่คาดตลาด ซึมๆจึงควรเน้นเลือกหุ้นมีปัจจัยบวก อาทิ อาหาร (CPF TFG) ครึ่งปีหลังฟื้นตัวเด่น (BEM BTS BJC CK CPALL (BK:CPALL) CRC HMPRO TASCO) งบ 2Q20 โดดเด่น (CBG TASCO) โดยยังเป็นลักษณะของการ Trading สั้นๆเท่านั้น
Stock Pick TFG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 5.95 บาท) แม้ผลประกอบการ 2Q20 อาจจะไม่สดใส นักคาดกำไรสุทธิหดตัวราว 21 %YoY (ไม่รวมผลกระทบจากค่าเงิน) อย่างไรก็ตาม มุมมองในครึ่งปีหลังค่อนข้างสดใสหนุนจากราคาหมูและไก่ในประเทศที่กลับมาฟื้นตัว หลังการคลาย Lock Down ขณะเดียวกันราคาหมูในเวียดนามยังคงยืนระดับสูงอยู่ และคาดว่าจะยังคงยืนระดับสูงได้อย่างน้อย 1 ปีจากนี้จากปัญหา ASF ประกอบกับ การระบาด COVID -19 ในสหรัฐและบราซิลจะเป็นบวกต่อบริษัทในแง่ของ Supply ที่หายไป
GULF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45.5 บาท) วานนี้บริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่ามี มติประกาศเพิ่มทุนประกอบกับมีข่าวว่าทาง ADB ได้ทำการขายหุ้นของบริษัท ความเห็นเรามองว่าการประกาศเพิ่มทุนจะเกิด Dilute ราว 9% แต่จะช่วยลด D /E ของบริษัทให้ลงมาเหลือ 1.7x จากระดับ 3.2x ส่วนการขายหุ้นของ ADB มองไม่มี ผลใดๆมองเป็นเพียงความต้องการสภาพคล่องเพิ่ม โดยเรายังมีมุมมองบวกต่อบริษัท ต่อเนื่องในระยะยาวดังนั้นราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาจึงมองเป็นโอกาสมากกว่าคาดผล ประกอบการของบริษัทในเชิงกำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องปี 20 +15.5 %YoY , ปี 21 เติบโตต่อ 37 %YoY
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th