(BK:BAM) หุ้นเด่นในช่วงที่ NPL แบงก์เพิ่มขึ้น
กำไร 2Q63 คำดลดลง 16.4%YoY กดดันด้วยยอดขำย NPA ที่แย่ลง เราคาด BAM จะรายงานกำไรสุทธิ2Q63 จำนวน 631 ลบ. ลดลง 16.4%YoY โดยแม้มีแรงกดดันจากยอดขายทรัยพ์ NPA ที่ลดลงไปราว 57%YoY ตามความต้องการอสังหามือสองและกำลังซื้อที่อ่อนตัวลง ในช่วง Lock Down บวกกับการเริ่มจ่ายภาษีนิติบุคคลเป็นปีแรกทำให้มีภาษีจ่ายเพิ่มขึ้นมาราว 70 ลบ. แต่ปัจจัยลบดังกล่าวบางส่วนคาดจะถูกบรรเทาลงด้วย 1) ผลจัดเก็บเงินสดของทรัพย์ NPL ที่คาดเพิ่มขึ้น YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ทำให้แม้เดือน เม.ย.-พ.ค. กรมบังคับคดีจะปิดประมูลทรัพย์ด้อยคุณภาพ แต่พบว่าการประมูลทรัพย์ผ่านกรมบังคับคดีในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นค่อนข้างดีเรารวบรวมข้อมูลจากกรมบังคับคดี พบว่าเดือน มิ.ย. มีการประมูลทรัพย์ผ่านกรมบังคับคดีราว 1,630 ลบ. ลดลงจาก 1Q63 เพียง 16.5% และ เพิ่มขึ้น 77.9% เทียบกับ 2Q62 เนื่องจากมีPent Up Demand เพิ่มเข้ามาในช่วงปลด Lock Down และมีการจัดมหกรรมขายทอดตลาดรอบใหญ่ร่วมกับกรมบังคับคดีในช่วงดอกเบี้ยต่ำทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลค่อนข้างมาก (ข้อมูลจากเว็บไซค์กรมบังคับคดี) นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินแผนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ทำให้คาด Operating Expense จะลดลงราว 5.1%YoY
ปรับลดประมาณการกำไรลง แต่ครึ่งหลังคาดจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น หากเป็นไปตามคาด กำไร 1H63 จะคิดเป็น 34.1% ของประมาณการกำไรปี2563 เดิม ซึ่งต่ำเกินไป เนื่องจากยอดขาย NPA ที่คาดได้รับผลเชิงลบในช่วง Lock Down ทำให้คาดจะสามารถปิดการขาย NPA ได้ต่ำกว่าประมาณการเดิม ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 2563 ลง 14.6% ซึ่งภายใต้ ประมาณการใหม่เราคาด BAM จะมีกำไรสุทธิราว 3,329 ลบ. ลดลง 49.2%YoY โดยมองว่ากำไรของบริษัทจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ 3Q63 เป็นต้นไป เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ทดลองช่องทางขายใหม่ๆ และได้อนุมัติทรัพย์ NPA รอขายไว้กว่า 800 รายการมูลค่าราว 3000 ลบ. ที่จะนำมาขายควบคู่กับการดำเนินกลยุทธ์ด้านราคาเพื่อเร่งระบายสต๊อกให้เร็วขึ้น ทำให้ยอดขาย NPA มีทิศทางฟื้นตัว ส่วนทรัพย์ NPL คาดปรับตัวดีขึ้นจาก 1H63 เช่นกัน เพราะกรมบังคับคดีจะมีการเปิดประมูลทรัพย์มากใน 3Q63 อีกทั้งที่ผ่านมามีลูกหนี้สนใจเข้ามาขอปรับโครงสร้างมากขึ้นในเพื่อรับประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำ
ธุรกิจในระยะยาวยังแกร่ง มีUpside Risk จากการรับรู้DTA ที่เร็วกว่าคาด เราคาดผลดำเนินงานของ BAM กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และมีสัญญาณที่ดีจากทั้งยอดขาย NPA และยอด ประมูล NPL ผ่านกรมบังคดีที่กลับมาเพิ่มขึ้นโดดเด่น ส่วนในระยะยาวยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก NPL และ NPA จากสถาบันการเงินออกประมูลมากขึ้น เป็นผลดีต่อศักยภาพทำกำไรในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังมี Upside Risk จากการรับรู้ผลประโยชน์ทางภาษีในส่วนของ DTA มูลค่า 5,871 ลบ. ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อจะรับรู้รายการดังกล่าวทั้งหมดในปีนี้ เราปรับราคาเป้าหมายไปใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2564 ที่ 30.50 บาท (วิธีGGM) ซึ่ง ณ ปัจจุบันราคาหุ้นมี Upside ราว 24% และคาดมีเงินปันผลจ่ายอีก 1 บาท คิดเป็น Div. Yield 4.1% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities