World Gold Council หรือสมาพันธ์ผู้ค้าทองคำโลก รายงานโครงสร้างตลาดทองคำ 2Q63 เป็นอุปทานส่วนเกินต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 โดยอุปสงค์ทองคำรวมอยู่ที่ 962 ตัน -17% YoY น้อยกว่าอุปทำนรวมที่1,034 ตัน -15% YoY อุปสงค์ที่ทรุดหนักคือ ความต้องกำรเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับ และแรงซื้อของธนาคารกาลาง ขณะที่ความต้องการ เพื่อ การลงทุนผ่าน ETF ที่เร่งตัวขึ้น ไม่สามารถชดเชยอุปสงค์จริงที่ทรุดตัวลงได้ แนวโน้มราคาทองคำในระยะ 1 เดือนข้างหน้า เราคาดว่าจะพักตัวลงหา $1,800- 1,850/Oz เพราะ (1) อุปทานจากเศษทองเก่าจะเร่งตัวขึ้น จากการนำทองคำที่เก็บไว้ ออกมาขายทำกำไร (2) Dollar Index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีโอกาส ฟื้นตัวระยะสั้น จากการเร่งออกพันธบัตรของคองเกรสเพื่อ ระดมเงินมาใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มเติม (3) ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจไม่ได้เร่งขึ้นเหมือนช่วงก่อนหน้า สังเกตจากขนาดงบดุลของเฟดที่เริ่มลดลง (4) ผลตอบแทน YTD สูงถึง 30% ใกล้เคียง ผลตอบแทนสูงสุดรายปีในอดีตที่31%
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้ Short Hedge แล้วรอซื้อกลับที่กรอบ $1,800- 1,850/Oz โดยเมื่อพักฐานเสร็จ เรายังคาดหวังราคาทองคำจะกลับไปทำ All Time High อีกครั้งแถว $2,000/Oz ก่อนจะจบรอบขาขึ้น อย่ำงเป็นทางการในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 63
โครงสร้างตลาดทองคำ 2Q63 เป็นลบจากความต้องการจริงที่ชะลอตัว
World Gold Council รายงานโครงสร้างตลาดทองคำ 2Q63 เป็นอุปทานส่วนเกินต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 อีก 72 ตัน โดยอุปสงคร์วมอยู่ที่ 1,034 ตัน -15% YoY ที่ลดลงมากคือความ ต้องการเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับ -58% YoY เหลือ 264 ตัน และแรงซื้อจากธนาคารกลาง - 50% YoY เหลือ 115 ตัน ขณะที่ความต้องการเพื่อการลงทุนผ่าน ETF +471% YoY เป็น 434 ตัน เพราะฐานปีก่อนต่ำผิดปกติและได้แรงหนุนจาก Dollar Index ทรุด ผนวกกับการใช้ ทองคำเป็น Safe Haven เพือ Hedge วิกฤติ COVID-19
ถ้าแบ่งพิจารณาเป็นรายประเทศ ความต้องการทองคำจากอินเดีย -70% YoY เหลือ 64 ตัน และจีน -29% YoY เหลือ 132 ตัน ประเทศที่ซื้อเพิ่มคือสหรัฐฯ +3% YoY อยู่ที่ 33 ตัน และ เยอรมัน +140% YoY อยู่ที่45 ตัน
ส่วนอุปทานรวมอยู่ที่ 1,034 ตัน -15% YoY เพราะปริมาณทองคำออกมาจากเหมืองลดลง - 10% YoY เหลือ 777 ตัน เนื่องจากมีการ Lockdown ปิดเหมืองในหลายประเทศ
แนวโน้มช่วง 1 เดือนข้างหน้า เราคาดว่าราคาทองคำจะพักฐานจาก 4 เหตุผล
เราคาดราคาทองคำจะพักตัวหา $1,800-1,850/Oz ในช่วง 1 เดือนข้างหน้า จาก 4 เหตุผล
(1) อุปทานจากเศษทองเก่าจะเร่งตัวขึ้นจากการนำทองคำที่เก็บไว้ออกมาขายทำกำไร – ทำให้โครงสร้างตลาด 3Q63 ยังมีโอกาสเป็นอุปทานส่วนเกินต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่7
(2) Dollar Index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น จากการเร่งออกพันธบัตรของคองเกรสเพื่อระดมเงินมาใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มเติม - ส่งผลลบกับราคา ทองคำตามหลักความเสมอภาคของค่าเงิน ที่มักเคลื่อนไหวผกผันกับดอลลาร์สหรัฐฯ
(3) ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจไม่ได้เร่งขึ้น เหมือนช่วงก่อนหน้า สังเกตจากขนาดงบดุล ของเฟดทเี่ริ่มลดลง – ส่งผลให้กระแสเงินส่วนเกิน (Excess Fund Flow) ที่เป็นตัวเปิด Upside ให้กับราคาทองคำในช่วงทผี่านมา มีโอกาสชะลอตัวชั่วคราว
(4) ผลตอบแทน YTD สูงถึง 30% ใกล้เคียงผลตอบแทนสูงสุดรายปีในอดตีที่31% - เนื่องจากการประเมินราคาเหมาะสมของทองคำไม่มีตัวอ้างอิงที่ชัดเจนเหมอืนหุ้น เราจึงเลือกประเมินโดยอิงผลตอบแทนในอดตี ซึ่งถ้าพิจารณาที่ราคาปิดของแต่ละปี ทองคำเคยให้ผลตอบแทน สูงสุด 31% ต่อปี ใกล้เคยีงปัจจุบันที่ขึ้นมาแล้ว 30% YTD แต่ถ้านับที่จุดสูงสุดของแต่ละปี ราคาทองคำ สามารถขึ้นแรงได้ถึง 41% YTD นั่นหมายถึงราคาทองคา ยังมีโอกาสกระชากทำสถติสิูงสุดใหม่ได้อกีครั้ง ถ้าจังหวะการพักฐานยังไม่หลุดจุดเปลี่ยนแนวโน้มแถว $1,800/Oz
ขายเล่นรอบหรือ Short Hedge ไปก่อน แล้วรอรับกลับแถว $1,800-1,850/Oz
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้ Short Hedge แล้วรอซื้อกลับที่ $1,800-1,850/Oz โดย เรายังคาดหวังราคาทองคำจะกลับทำจุดสูงสุดใหม่แถว $2,000/Oz หลังจากพักฐานรอบนี้ แล้ว ก่อนจะไปจบรอบขาขึ้นอย่างเป็นทางการหลังสหรัฐฯเลือกตั้งในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 63
ราคาทองคำ SPOT XAU/USD
ดูความเคลื่อนไหวราคาทองคำ Gold Spot ล่าสุดได้ที่
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา>> สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ล่าสุด
https://th.investing.com/commodities/gold
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities