รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ราคาทองคำอาจขึ้นถึง $2,150 ภายในเดือนสิงหาคมส่วนแร่เงินเล็งเป้าหมายเอาไว้ที่ $30

เผยแพร่ 07/08/2563 17:56
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ในตอนนี้ไม่ว่าคุณจะหันหน้าไปทางไหนก็จะได้ยินคนถามแต่ว่า “คิดว่าราคาทองคำจะสามารถขึ้นไปได้จนถึงเท่าไหร่?” ในขณะที่ทุกคนพยายามคาดการณ์ ฟังกูรู วิเคราะห์ด้วยตัวเองเพื่อหาจุดสูงสุดของราคาทองคำให้ได้ ล่าสุดวันนี้ราคาทองคำในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่จะหมดสัญญาในเดือนสิงหาคมปี 2020 ก็สามารถขึ้นถึง $2049.9 ต่อออนซ์ได้เป็นที่เรียบร้อย

สาเหตุที่อธิบายได้ง่ายที่สุดว่าทำไมราคาทองคำถึงขึ้นแบบไม่มีหยุดได้ขนาดนี้อธิบายได้ด้วยเหตุผลประการเดียวนั้นคือการอ่อนมูลค่าลงของดอลลาร์สหรัฐทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นไปตามหลักอุปสงค์อุปทาน ในเมื่อทองเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ตัวหนึ่งเป็นทรัพยากรที่ทั้งโลกเชื่อว่ามีอยู่อย่างจำกัดและไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามบนโลกทองคำก็สามารถใช้เป็นตัวกลางในการและเปลี่ยนได้ในขณะที่ดอลลาร์เป็นสกุลเงินสำรองของโลกที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด (ตราบใดที่เฟดยังคงพิมพ์เงินออกมาอย่างต่อเนื่อง) การเพิ่มจำนวนเงินเข้ามาในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยิ่งทำนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าเงินด้อยมูลค่าลงมากเท่านั้น

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่ใช้เป็นตัววัดมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดระยะเวลา 17 ปีเอาไว้ที่ 103.60 ในเดือนมิถุนายนก่อนที่จะร่วงลงสู่ 92.80 ในปัจจุบันเนื่องจากปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างเด็ดขาด สร้างผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ เมื่อภาคการผลิตไม่สามารถผลิตได้อย่างเต็มที่จึงทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นใจกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำซึ่งเคยลงไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ $1,451.00 สามารถทะยานกลับขึ้นมายืนเหนือ $2000 ได้ในปัจจุบันทั้งตลาดซื้อขายล่วงหน้าและสปอต

ทุกอย่างเป็นความผิดของดอลลาร์ อัตราดอกเบี้ยและราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

สถานการณ์ของดอลลาร์ในตอนนี้เรียกได้ว่าหาข่าวดีได้น้อยมาก ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงวิ่งอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบ 27 เดือนหรือประมาณ 93.047 ส่วนที่กราฟราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีและอัตราดอกเบี้ยถูกปรับลดลงจนเกือบจะเป็น 0% แล้ว ในขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (FED) ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องอุ้มเศรษฐกิจเอาไว้ด้วยการตั้งกองทุนเยียวยาภัยพิบัติไวรัสโคโรนาด้วยวงเงิน $3,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนมีนาคมและยังคงดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักเศรษฐศาสตร์จากมหาลัยฮาวาร์ดก็คงเดาได้ว่าการปั้มเงินออกมามหาศาลแบบนี้เพื่อพยุงเศรษฐกิจเอาไว้จะก่อให้เกิดปัญหาที่ต้องตามมาหลังจากนี้แน่ๆ คือปัญหาเงินเฟ้อซึ่งเฟดก็ได้ตัดสินใจแล้วว่ายอมแก้ปัญหาเงินเฟ้อดีกว่าต้องแก้ปัญหาเงินฟืด สัญญาณทางเศรษฐกิจแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนหรือนักลงทุนจะหันไปหาสินทรัพย์สำรองปลอดภัยที่รู้สึกสบายใจกว่าซึ่งนั่นก็คือทองคำ

ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์พบว่าราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าสามารถขึ้นยืนเหนือ $2001.20 และสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $2,014.15 ได้ในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร ในขณะที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่นี้สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุลงในเดือนตุลาคมในตลาด COMEX มีจุดสูงสุดอยู่ที่ $2056.4 ที่น่าตกใจกว่าคือเมื่อเราได้เปิดดูตลาดการซื้อขายล่วงหน้าของราคาทองคำในเดือนธันวาคมปี 2020 พบว่าตอนนี้กราฟมีจุดสูงสุดอยู่ที่ $2067.4 

Gold Futures Daily

ส่วนราคาทองคำสปอตสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดล่าสุดเอาไว้ที่ $2056.33

เป้าหมายของราคาทองคำจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ

จากสาเหตุที่ดอลลาร์ยังคงอ่อนมูลค่าลงอย่างต่อเนื่องและราคาทองคำสปอตที่สามารถขึ้นมายืนเหนือ $2050 ต่อออนซ์ได้แล้ว ผมจึงคาดการณ์ว่าเป้าหมายของราคาทองคำที่ $2,150 ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกินตัวอีกต่อไป ที่สำคัญทองคำอาจจะสามารถขึ้นชนเป้าหมายราคานี้ได้สำเร็จก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมด้วยซ้ำ ไม่ใช่แต่เฉพาะกราฟซื้อขายทองคำล่วงหน้าในเดือนนี้เท่านั้นแต่ผมยังหมายถึงของเดือนตุลาคม ธันวาคมหรือแม้กระทั่งทองคำสปอตเองก็สามารถทำได้และผมไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนี้

XAU/USD Daily Chart

AG Thorson ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิคเขียนลงในบทวิเคราะห์ให้กับ FX Empire ว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลงไปต่ำกว่า 92 ได้เมื่อนั้นเราจะได้เห็นการเทขายดอลลาร์ชนิดที่ว่าไหลลงเป็นน้ำตกเอราวัณ หากว่าเกิดกรณีอย่างนั้นขึ้นจริงจะส่งผลให้ราคาทองคำสามารถขึ้นเกิน $2,100 ได้และจะไม่หยุดอยู่แค่ $2,100 ด้วย”

นอกจากนี้คุณ Thorson ยังเห็นสัญญาณบ่งบอกขาขึ้นของทองคำจากอินดิเคเตอร์ RSI ซึ่งเขาเขียนอธิบายว่า “การที่อินดิเคเตอร์ RSI ลงมายังระดับ 18.61 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับจุดต่ำสุดของดัชนีดอลลาร์สหรัฐและขาขึ้นชั่วคราวของทองคำที่ส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน” ที่สำคัญเขายังเตือนอีกว่า “ตอนนี้ราคาทองคำถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากๆ แล้วและไม่ใช่จุดเข้าที่ดีอีกต่อไป ในสัปดาห์หน้าจะมีความผันผวนในราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น” 

Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์แร่โลหะมีค่าอิสระกล่าวว่า “ราคาทองคำในตอนนี้กำลังทะยานขึ้นไปทดสอบเป้าหมายราคาตามเครื่องมือ Fibonacci Retracement ซึ่งการลาก Fibonacci ของผมวัดเอาจากจุดสูงสุดของทองคำในปี 2011 ($1,920) เทียบกับจุดต่ำสุดในปี 2015 ($1,046) เมื่อลองวัดดูแล้วคุณจะเห็นว่าราคาทองคำในตอนนี้สามารถขึ้นได้ถึง 123.6% ของ Fibonacci ซึ่งถือว่าเป็นภาพที่หาชมได้ยาก เมื่อมองขึ้นไปที่เป้าหมายถัดไปของราคาจะพบว่าระดับเป้าหมายถัดไปของทองคำจะอยู่ที่ $2,127 ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะมีแรงซื้อแถมที่ดันราคาให้ขึ้นไปถึง $2,150 ได้”

แม้จะไม่ใช่เวลาที่ควรซื้อแต่ก็ไม่ใช่เวลาที่ควรขายทองคำ

นาย Christopher Lewis อีกหนึ่งนักวิเคราะห์จาก FX Empire เชื่อว่าอีกไม่นานราคาทองคำจะร่วงลงมาแต่ในตอนที่ราคาทองคำเริ่มวิ่งลงก็ยังไม่ใช่จุดที่ดีในการเทขาย “ผมจะยังไม่มองว่าราคาทองคำอยู่ในแนวโน้มขาลงจนกว่าราคาทองคำจะลงมาต่ำกว่า $1,800 หรือจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเลิกใช้วิธีปั้มเงินเข้าช่วยเศรษฐกิจของอเมริกาซึ่งในความเป็นจริงแล้วผมไม่เห็นทางไหนเลยที่เฟดจะเลิกทำแบบนั้นในเร็วๆ นี้ ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นราคาทองคำลงมา ให้พิจารณาไปเลยว่านั่นคือการย่อเพื่อไปต่อทั้งหมด”

นาย Eli Tesfaye นักวางกลยุทธ์ในการลงทุนกับแร่โลหะมีค่าของ RJO Futures ในชิคาโกแสดงความเห็นว่า “เราอาจจะได้เห็นดัชนีดอลลาร์ลงมาต่ำกว่า 90 ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้และยิ่งตอนนี้ที่มีแต่คนแห่ซื้อทองถึงแม้ว่าจะมาช้าแต่ก็มีส่วนช่วยให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น”

แร่เงินกับเป้าหมายราคาที่ $30

นาย Eli Tesfaye ยังได้คาดการณ์เป้าหมายราคากราฟของสัญญาซื้อขายแร่เงินล่วงหน้าเดือนถัดจากกันยายนในตลาด COMEX ที่พึ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ $26.87 เมื่อวันพุธว่าอาจขึ้นไปวิ่งอยู่บริเวณ $30 ได้ในช่วงสิ้นปี “ผมคิดว่าแร่เงินอยู่ในราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับทองคำและคุณมีโอกาสสูงมากที่จะได้เห็นราคาของเงินที่ $30 ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้”

Silver Futures 5 Min Chart

นอกจากนี้เขายังชี้ให้เห็นจุดน่าสนใจของกราฟเงินในปัจจุบัน เมื่อเทียบระหว่างกราฟสัญญาซื้อล่วงหน้าระหว่างเดือนกันยายนและตุลาคมพบว่ามีความเป็นไปได้ที่ราคาสัญญาของเดือนตุลาคมอยู่ต่ำกว่าของเดือนกันยายน (Backwardation) ซึ่งในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์การเกิด backwardation แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแร่โลหะที่มีมากกว่าตลาดหุ้นปกติ

นาย Dixit นักวิเคราะห์อิสระคาดการณ์ว่าราคาแร่เงินจะสามารถขึ้นถึง $30 ได้ด้วยเช่นกัน “ราคาของแร่เงินนั้นติดอยู่ที่ 38.2% หรือ $26.18 ของเครื่องมือ Fibonacci Retracement ระยะยาวมานาน กรอบนี้ผมลากโดยอ้างอิงจุดสูงสุดที่ $49.79 ของปี 2011 กับจุดต่ำสุดที่ $11.62 ของปี 2020 ในไทม์เฟรมระยะสั้นผมเห็นว่ากราฟแร่เงินสามารถทะลุกรอบสามเหลี่ยมที่มีเป้าหมายของราคาอยู่ที่ $30.11 ขึ้นมาได้แล้ว เมื่อออกมาดูที่กรอบระยะยาวจะพบว่าระดับราคาดังกล่าวตรงกันกับระดับ Fibonacci ที่ 50% พอดีหรือเท่ากับ $30.20”

ความคิดเห็นล่าสุด

29.85$
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย