Tom Slater หัวหน้ากองทุนจาก Baillie Gifford กองทุนใหญ่ระดับโลก ที่บริหารเงินมากถึง 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐได้ออกมากล่าวว่าทำไมทางกองทุนถึง #ชอบการลงทุนในหุ้น Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) มากที่สุดในหุ้นทุกตัวบนโลกนี้
“สำหรับพวกเรามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นคือความสามารถในการสร้างรายได้ในระยะยาวของธุรกิจ แต่ตลาดส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญแต่กับรายได้ที่บริษัทจะได้รับในไตรมาสถัดไป ซึ่งเรามองว่ามันมีมูลค่าเพียงเล็กน้อยมาก" Tom Slater กล่าว
กองทุน Baillie Gifford Positive Change Fund เคยถือหุ้น Tesla สูงถึงเกือบ 10% แต่ต้องทยอยขายหุ้น Tesla ทำกำไรไปบางส่วนหลังจากที่ราคาหุ้นดีดขึ้นมาสูงถึง 500 เหรียญก่อนหน้านี้ เพราะเนื่องจากกองทุนนั้นมีนโยบายกระจายความเสี่ยง และด้วยราคาของ Tesla ที่ขึ้นมาเรื่อยๆทำให้สัดส่วนหุ้นของ Tesla ในกองทุนนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ (เพราะหุ้นราคาขึ้นมามากกว่าหุ้นตัวอื่นหลายเท่า) จนทางหัวหน้ากองทุนต้องขายหุ้น Tesla ออกไปบ้างเพื่อลดสัดส่วนความเสี่ยงของหุ้นตัวเดียวที่อาจมากเกินไปตามกฏ
ข่าวที่ทาง Baillie Gifford ออกมาขายหุ้น Tesla นั้นทำให้ตลาดตั้งคำถามว่า
"หุ้น Tesla แพงไปแล้วหรือ ? ทำไมถึงต้องขายออก ? ราคา Over Value เกินไปแล้วใช่ไหม ?"
จนทาง CNBC ต้องเรียก Tom เข้ามาสัมภาษณ์
โดยเพียงเริ่มต้นที่คำถามแรก ทางผู้สัมภาษณ์ถึงกับตกใจว่าทาง Baillie Gifford ได้ถือหุ้น Tesla มาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว และถือยาวมาโดยตลอด โดยนโยบายของทางบริษัทนั้นชัดเจนมาก ว่าถ้าเข้าไปซื้อหุ้นตัวไหนแล้วส่วนมากจะต้องถือเกิน 10 ปี #เพราะทุกๆการลงทุนนั้นคือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่แค่เพียงการเก็งกำไร และทาง Tom ก็ยืนยันว่าที่ต้องขายหุ้น Tesla ออกไปนั้นเป็นเพราะกฏที่บังคับไม่ได้สัดส่วนหุ้นตัวใดตัวหนึ่งสูงจงเกินไป ไม่เช่นนั้นทางบริษัทยังไม่คิดจะขายหุ้น Tesla ออกไปแน่ เพราะ Tesla #เป็นหุ้นที่ยังโตได้อย่างมากในระยะยาว
Tom ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาที่นักลงทุนซื้อหุ้นเพียงเพื่อหวังว่าผลตอบแทนในไตรมาสข้างหน้าจะดี เพราะนั้นคือการเก็งกำไร ซึ่งมูลค่าที่ได้มานั้นมันเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในระยะยาว เขาจึงได้กล่าวตาม quote ที่เขียนไว้บนรูปครับ
เหตุผลที่ผมหยิบบทสัมภาษณ์ของ Tom ขึ้นมาแชร์
เพราะว่าเมื่อวันก่อนได้อ่านคอมเม้นท์บนบทความที่ทางเพจพยายามจะวิเคราะห์ข้อมูลของหุ้น Tesla ให้กับทุกท่าน #เพราะเชื่อว่านี่เป็นโอกาสลงทุนระยะยาวที่ดีมาก ทางเพจไม่ได้เขียนเพียงเพราะว่าหุ้นตัวนี้ดีดสูงขึ้นมาจนเป็นที่สนใจทั่วโลก แต่ได้เขียนบทวิเคราะห์มาเรื่อยๆจนเกือบปีนึงแล้ว
และเมื่อหุ้นตัวที่ทางเพจ (หรือหัวหน้ากองทุนระดับโลก) ยังมองว่าเป็นหุ้นที่มีอนาคตดีอยู่ กำลังโดนเทขายเพราะปัจจัยระยะสั้นลงมาถึง -30% ทางเพจจึงต้องการแชร์ข้อมูลและโอกาสอันนี้กับเพื่อนๆนักลงทุนในไทย
แต่หลังจากที่ได้มาอ่านคอมเม้นท์บางส่วน แล้วเห็นว่าหลายๆท่านอาจต่อว่าทางเพจว่ากำลังปั่นหุ้นหรือป่าว...
#ต้องขอโทษทุกท่านถ้าเห็นว่าบทความของเราเป็นเช่นนั้น แต่ทางเราไม่ได้มีความตั้งใจแบบนั้นเลย เพียงแต่ทางเพจได้ศึกษาหุ้น Tesla มานานแล้ว และเห็นว่าเป็นช่องทางในการลงทุนที่ดี เราจึงอยากมาแชร์
โอกาสลงทุนที่ดีทางเพจก็อย่างเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกระจายข่าวสาร เพราะทุกวันนี้เห็นว่ามีเพจที่วิเคราะห์หุ้นไทยเยอะแล้ว แต่เหตุผลนึงที่นักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยขนเงินออกไปนอกประเทศเรา อาจจะไม่ได้อยู่ที่ประเทศเราไม่มีหุ้นดีนะครับ แต่อาจเป็นเพราะว่า #หุ้นในประเทศของเขานั้นดีกว่า ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีต่างชาตินั้นยังล้ำหน้ากว่าไทยเราเยอะ ทางเพจจึงอยากเป็นอีกแค่หนึ่งกระบอกเสียงในการช่วยหาทางเลือกใน #การลงทุนระยะยาว มากขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่า #ทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ #จึงอยากให้ทุกท่านศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนให้ชัดเจน ทางเราไม่ได้ชักจูงแต่อย่างใด แต่ถ้ามีข้อมูลดีๆก็จะนำมาแชร์ให้เสมอนะครับ
ปัจจัยที่กระทบกับราคาหุ้นของ Tesla ยังมีอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็น
1) Autonomous Driving
2) Battery Day
3) การขายเพิ่มทุน 5 พันล้านเหรียญที่เพิ่งจบไป
4) การร่วมมือกันระหว่าง Nikola + GM เพื่อพยายามมาสู้กับ Tesla
ผมมองว่าปัจจัยต่างๆเหล่านี้จะส่งผลเป็นบวกกับหุ้น Tesla ในระยะยาว เราจะไม่พูดถึงเรื่องปัจจัยในระยะสั้น เพราะคงไม่มีใครสามารถคาดเดาราคาในระยะสั้นของหุ้นที่กำลังมีเงินของคนทั้งโลกไหลเข้ามาซื้อขายกันอยู่ได้ ดั่งคำพูดของ Benjamin Graham ที่ว่า
"ในระยะสั้นราคาหุ้นจะเป็นไปตามความคิดเห็นของตลาด แต่ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นจะเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก"
เพราะฉะนั้นคงไม่มีใครทราบความคิดเห็นของคนหลายล้านคนในระยะสั้นได้ แต่ในระยะยาวความสามารถของบริษัทที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมในหลายๆด้านเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ประกอบกับการนำของผู้นำที่มุ่งมั่นอย่าง Elon Musk จะมีน้ำหนักแค่ไหน #เราคงต้องมาติดตามกันครับ
#ทันโลกกับTraderKP
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP