รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

EUR/USD จะลงถึง 1.15 ได้หรือไม่

เผยแพร่ 24/09/2563 14:56
อัพเดท 09/07/2566 17:31

เมื่อวันพุธที่ผ่านมานักลงทุนยังคงเทขายสกุลเงินยูโรอย่างต่อเนื่องจนทำให้เงินยูโรลงไปสู่ระดับราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม สิ่งที่ยุโรปกลัวที่สุดกำลังค่อยๆ กลายเป็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นเมื่อยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีมากกว่า 5 ล้านคน อย่างที่เราได้วิเคราะห์ไปเมื่อต้นสัปดาห์แล้วว่ามาตรการคุมเข้มทางสังคมใหม่จะต้องออกมาแน่นอนและฝรั่งเศสก็เริ่มดำเนินการแล้ว ดินแดนน้ำหอมได้ทำแผนที่ของแต่ละโซนโดยแบ่งเป็นสีว่าพื้นที่ไหนปลอดภัยพื้นที่ไหนอันตราย นอกจากนี้รัฐบาลยังได้สั่งให้ผับ บาร์ ร้านอาหารลดจำนวนชั่วโมงการเปิดให้บริการลง ไม่มีใครอยากกลับไปอยู่ในช่วงล็อกดาวน์แบบไตรมาสที่หนึ่งแต่มาตรการเช่นนี้ก็จะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว

ตัวเลขทางเศรษฐกิจเริ่มสะท้อนให้เห็นภาพของการชะลอตัวออกมาแล้วในภาคบริการทั่วทั้งยูโรโซน แม้ว่าตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะดีขึ้นแต่ก็ยังดีไม่พอที่จะทำให้ภาพรวมของเยอรมัน ฝรั่งเศสและยูโรโซนเติบโต ดัชนี PMI ในภาพรวมของยูโรโซนลดลงจาก 51.9 เหลือ 50.1 เท่ากับว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนในเดือนกันยายนซบเซา นี่คือผลที่ตามมาของการแพร่ระบาดอย่างไม่ต้องสงสัย นายอีฟว์ เมิร์สช์ (Yves Mersch) หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางแห่งยุโรป (ECB) กล่าวว่าเส้นทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปกำลังใกล้เข้าสู่จุดจบแล้ว 

ในแง่ของการวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟ EUR/USD เราเคยได้วิเคราะห์ไปในตอนที่กราฟยังอยู่ที่ 1.18 แล้วว่ามีโอกาสที่กราฟจะลงมาสร้างจุดต่ำสุดที่ 1.15 ได้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้กราฟ EUR/USD ได้ปรับตัวลดลงมาสี่วันติดต่อกัน ตอนนี้กราฟยังมีแนวรับรองอยู่ที่ 1.1650 และ 1.1625 หากว่าราคาสามารถหลุดแนวรับทั้งสองลงมาได้จะเป็นการเปิดทางสู่ 1.15 ทันที ข่าวสำคัญในฝั่งยุโรปวันนี้จะมีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจโดยสถาบัน IFO ของเยอรมันซึ่งจากการที่ดัชนี PMI ก่อนหน้านี้มีตัวเลขที่ลดลงทำให้เราเชื่อว่าตัวเลขจาก IFO จะลดลงด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ข่าวปัญหาในยุโรปกำลังกดมูลค่าของสกุลเงินยูโรให้อ่อนลงแต่ในขณะเดียวกันความเสี่ยงนั้นกลับทำให้มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น การที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดยิ่งทำให้นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้นเท่ากับว่าดอลลาร์เลยกลายเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นไปด้วย เมื่อวานนี้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลักยกเว้นแต่ปอนด์สเตอร์ลิง ข้อมูลตัวเลขดัชนี PMI จาก Markit ออกมาค่อนข้างซับซ้อน ตัวเลขในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นแต่ตัวเลขในภาคการบริการกลับลดลงจนสุดท้ายแล้วส่งผลให้ภาพรวมแล้วตัวเลขจาก Markit ลดลง


สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงได้แรงหนุนจากแถลงการณ์ต่อสภาคอนเกรสของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟดและสมาชิกธนาคารกลางคนอื่นๆ เช่น ริชาร์ด คาร์ริดา, ลอเรตตา เมสเตอร์, ชาลีย์ อีแวนและอีริก โรเซนเกรน คำแถลงการณ์จากวันแรกของประธานเฟดนับว่าดีแล้วแต่เมื่อคืนนี้เขาได้เสริมเข้าไปอีกว่าตอนนี้เฟด “ได้ทำทุกอย่างเท่าที่คิดว่าจะทำได้แล้ว” นายริชาร์ดคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยแบบนี้เอาไว้อีกนานจนกว่าเงินเฟ้อจะขึ้นถึง 2% และในบางกรณีอาจจะปล่อยลอยเหนือ 2% ได้ นางลอเรตตากล่าวว่าหากจะปล่อยอัตราเงินเฟ้อให้ลอยถึง 2.5% ก็ถือว่ายังอยู่ในการควบคุมของเฟดซึ่งหมายความว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้แบบนี้จนกว่าราคาสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้น สุดท้ายนายอีริกคือคนที่มองภาพบวกน้อยกว่าสมาชิกคนอื่นๆ เขาค่อนข้างกลัวการแพร่ระบาดในรอบที่สองและเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะไปถึง 2% ได้ในอีกสามปีข้างหน้า แม้ว่าโดยรวมแล้วข้อมูลจากแถลงการณ์ของเฟดจะมีทั้งคล้อยตามและไม่เห็นด้วยแต่การแข็งค่าของดอลลาร์ก็ยังไม่หยุดและกราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐยังปรับตัวขึ้นตามกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี

อีกสองสกุลเงินที่อ่อนมูลค่าลงเมื่อวานนี้คือดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ ซึ่งทั่งคู่สามารถลงไปสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบหนึ่งเดือนได้เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะไม่มีรายงานข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญจากออสเตรเลียแต่ปัจจัยหลักที่ยังกดดันมูลค่าของดอลลาร์ออสเตรเลียคือความขัดแย้งกับประเทศจีน นักลงทุนในตอนนี้ไม่สนใจที่จะถือดอลลาร์ออสเตรเลีย ฝั่งนิวซีแลนด์ถึงธนาคารกลางของประเทศจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ดังเดิมแต่ก็เตรียมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม สิ่งที่ RBNZ กำลังพยายามจะบอกเราก็คือการได้ตำแหน่งมือปราบโควิด-19 สองสมัยไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นได้ด้วยตัวเอง อัตราการว่างงานและบริษัทที่ต้องปิดตัวยังคงเพิ่มขึ้น ตราบใดที่สมดุลทางเศรษฐกิจยังค่อนไปทางลบ การลดอัตราดอกเบี้ยลงมาจนติดลบและการใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของ RBNZ ยังเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ในขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีของแคนาดานายจัสติน ทรูโดสัญญาว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยพยุงมูลค่าของดอลลาร์แคนาดา

ปิดท้ายด้วยสกุลเงินที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของเมื่อวานนี้คือปอนด์สเตอร์ลิงที่สามารถแข็งค่าขึ้นสู้กับข้อมูลตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการที่อ่อนลงได้เล็กน้อย นักลงทุนยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ของการแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักรและสถานการณ์ความคืบหน้าของ Brexit ต่อไป

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย