เป็นเวลานานกว่าสองเดือนแล้วที่นักลงทุนผู้ศรัทธาในขาขึ้นของทองคำ ไม่ได้สัมผัสกับคำว่า “จุดสูงสุดใหม่” อย่างไรก็ตามการอ่อนมูลค่าของของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นปรปักษ์กับทองคำตามธรรมชาติกำลังทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมามีหวังอีกครั้งที่จะได้เห็นราคาทองคำที่ระดับ $2,000 ต่อออนซ์อีกครั้ง
ข่าวสำคัญมากๆ ที่นักลงทุนจะจับตาดูเป็นพิเศษและจะส่งผลต่อเศรษฐกิจสัปดาห์นี้มีสองเรื่อง หนึ่งคือการโต้วาทีคืนนี้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พฤศจิกายนระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์จากรีพลับลิกันและผู้ท้าชิงนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต สองคือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ของเดือนสิงหาคม ผลของข่าวทั้งสองจะส่งผลอย่างมากกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดฟอเร็กซ์ในคืนนี้ซึ่งจะส่งผลกระทบมายังราคาทองคำและดอลลาร์ด้วย
นอกจากสองเหตุการณ์ที่สำคัญนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนคาดหวังจะได้เห็นก่อนการเลือกตั้งคือการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 ซึ่งเป็นเรื่องพรรครีพลับลิกันและเดโมแครตยังตกลงกันต่อหน้าสภาคอนเกรสไม่ลงตัวเสียที การโต้เถียงนี้กินเวลามานานสามเดือนแล้ว
James Hyerczyk นักวิเคราะห์จาก FX Empire แสดงความเห็นลงบนบล็อกของเขาเกี่ยวกับทองคำว่า “ตลาดไม่สามารถกดราคาทองคำและดอลลาร์สหรัฐให้ลงพร้อมกันได้ เมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขึ้นอีกฝ่ายต้องยอมลง”
จุดสูงสุดของราคาทองคำสปอตที่ $2,073 เกิดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมในขณะที่กราฟซื้อขายทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $2,089 หลังจากนั้นราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงกลับมายัง $2,000 และวิ่งอยู่ในกรอบราคาระหว่าง $1,980-$1,960 $1,960-$1,930 และ $1,930-$1,900 จนกระทั่งสัปดาห์ที่แล้วที่ราคาทองคำสามารถหลุด $1,900 ลงมาได้และลงไปสร้างจุดต่ำสุดเอาไว้ที่ $1,849
การโต้วาทีในคืนนี้และตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์สร้างความหวังให้กับนักลงทุนว่าได้กลับไปเห็น $1,900 ก่อนถึง $2,000 ก็ยังดีเพราะการขึ้นไปถึง $1,900 ได้จะทำให้ขวัญกำลังใจของฝั่งที่ถือดอลลาร์อยู่ลดลง วันนี้ในช่วงตลาดลงทุนฝั่งเอเชีย เราเห็นว่าราคาทองคำสปอตมีตัวเลขอยู่ที่ $1,887 ในขณะที่ราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมบนตลาด COMEX สามารถขึ้นมาถึง $1,892 ก่อนจะปรับตัวลดลงในเวลา 5:35 GMT
กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่ใช้วัดมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์วันนี้มีราคาที่ปรับตัวลดลง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วดอลลาร์เป็นที่จับตามองอย่างมากเพราะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐสามารถขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในรอบสองปีที่ 92.51 ขึ้นมายัง 94.80 ได้ในวันศุกร์ แม้จะมีการร่วงลงไปยัง 91.73 ในวันที่ 1 กันยายนแต่การร่วงลงนั้นก็ไม่สามารถหยุดขาขึ้นกราฟดัชนีดอลลาร์ได้ ในทางกลับกันกลายเป็นคนกลับมาถือดอลลาร์เอาไว้เป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัยแม้ว่าก่อนหน้านี้ดอลลาร์จะอ่อนมูลค่ามากจากการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรัฐบาลและธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อสู้ภัยโรคระบาด
“สิ่งที่นักลงทุนจะให้ความสำคัญมากกว่าผลการโต้วาทีที่จะรู้กันในช่วงเช้าของวันพุธคือทั้งสองฝ่ายจะยอมจับมือกันและยอมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สองหรือไม่” - James Hyerczyk กล่าว
นักวิเคราะห์ชื่อดังหลายคนมีความเห็นว่าหากจะให้ทองขึ้นต้องลุ้นให้โจ ไบเดนชนะการโต้วาทีในคืนนี้ ผลการโต้วาทีหากไบเดนชนะจะมีผลกับการเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายนมากเพราะที่ผ่านมานโยบายของทรัมป์คือการทำให้สหรัฐฯ กลับมาแข็งแกร่งจากภายในดังนั้นหากจะเปรียบว่าทรัมป์คือฝ่ายดอลลาร์และไบเดนคือฝ่ายของทองคำก็คงจะไม่ผิดนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์ยืมคำพูดของ Daisuke Karakama หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การตลาดของธนาคาร Mizuho ว่า
“หากการโต้วาทีคืนนี้ไบเดนยังสามารถรักษาความนิยมของเขาต่อไปได้ จะมีคนเทขายดอลลาร์มากขึ้น ดอลลาร์ทำได้ดีแล้วจากการกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในช่วงกลางเดือนกันยายนแตะจะรักษาขาขึ้นนี้ไว้ได้อีกนานแค่ไหน และที่สำคัญกว่าการดูศึกระหว่างทองคำกับดอลลาร์คือข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สอง”
Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์ทองคำอิสระมีความเห็นว่าดัชนีดอลลาร์สหรัฐจะต้องลงไปต่ำกว่า 94 จึงจะเปิดโอกาสให้ทองคำสามารถวิ่งขึ้นได้
“หากกราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐลงไปหาระดับราคา 93.90 เราถึงจะสามารถคาดการณ์ได้ว่าทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้น หากไม่เช่นนั้นแล้วไม่ว่าทองคำจะขึ้นมาอย่างไรจะถูกมองว่าเป็นการย่อเพื่อลงต่อทั้งสิ้น”