รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ปัจจัยใดบ้างที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในโลกยุคหลังโควิด-19

เผยแพร่ 11/11/2563 08:14
อัพเดท 14/05/2560 17:45

- อนาคตของเหล่าบริษัทผู้ผลิตน้ำมันระดับโลก
- นโยบายรักษ์โลกในยุคของโจ ไบเดน
- ราคาน้ำมันในยุคหลังโควิด-19

ในเดือนมีนาคมปี 2020 การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาเคยสามารถขึ้นไปทำตัวเลขสูงสุดเอาไว้ที่ 13.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ซึ่งระดับปริมาณการผลิตดังกล่าวนั้นสูงกว่าที่ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียเคยทำได้ แต่เมื่อไวรัสโคโรนาเข้ามากระทบต่อการทำกิจกรรมนอกบ้านของมนุษย์ก็ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันลดลง กระทบต่อประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลักของโลกอย่างสหรัฐฯ รัสเซียและซาอุดิอาระเบียจนทำให้เราได้เห็นข่าวการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจากกลุ่มโอเปกมาตลอดทั้งปีจนในที่สุดเหลือแค่เพียง 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมาแม้จะยังไม่ทราบผลอย่างเป็นทางการแต่สื่อทุกสำนักของสหรัฐฯ ก็ได้ประกาศชื่อว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่นาย โจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะเป็นข่าวดีสำหรับการเมืองโลกที่สหรัฐฯ จะกลับเข้ามาอยู่ในรูปในรอยอย่างที่เคยเป็น แต่สำหรับวงการน้ำมันแล้วผู้ประกอบการค่อนข้างมีความเป็นกังวลเพราะทราบดีว่านโยบายของโจ ไบเดนคือการสนับสนุนพลังงานสะอาดลดการพึ่งพาพลังงานในโลกยุคเก่าที่ก่อให้เกิดมลพิษซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการใช้น้ำมัน

อันที่จริงแล้วก่อนการเลือกตั้งก็ได้มีการคาดการณ์ไว้บ้างว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีซึ่งผลสำรวจส่วนใหญ่ต่างก็โหวตเป็นโจ ไบเดน การคาดการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันจากกองทุนUnited States Oil Fund, LP (NYSE:USO)และ United States Brent Oil Fund, LP (NYSE:BNO) ปรับตัวขึ้นลงตามกราฟน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนหรือหนึ่งวันก่อนการเลือกตั้งในขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมบนตลาด NYMEX มีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนราวกับว่าต้องการจะบอกใบ้อะไรบางอย่างแก่นักลงทุน

อนาคตของเหล่าบริษัทผู้ผลิตน้ำมันระดับโลก

ในปีนี้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้เวลานานกว่าปกติเนื่องจากประชาชนหลีกเลี่ยงการออกมาใช้สิทธิ์ที่คูหาเลือกตั้งแต่เลือกที่จะโหวตผ่านจดหมายแทน ดังนั้นในช่วงวันแรกๆ ของการเลือกตั้งคะแนนของทรัมป์จึงถือว่าจี้ไบเดนมาได้ในระดับที่พอให้เกิดความกดดัน แต่หลังจากที่เริ่มมีการนับคะแนนผลโหวตทางจดหมายก็ปรากฏว่าไบเดนสามารถผลิกกลับมาครอบครองในรัฐที่เคยเป็นฐานเสียงของทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2016 ได้แก่รัฐวิสคอนซิน มิชิแกนและล่าสุดคือรัฐที่ส่งให้โจ ไบเดนได้ขึ้นเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคือเพนซิเวเนีย

แม้จะได้ทราบว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปอย่างไม่เป็นทางการแล้ว แต่ที่ยังต้องติดตามกันอยู่คือการนับคะแนนในรัฐจอร์เจียที่จะส่งผลกระทบต่อที่นั่งในสภาสูงด้วย ตอนนี้คะแนนที่นั่งของวุฒิสมาชิกในสภาสูงถือว่าใกล้เคียงกันมากและยังไม่อาจตัดสินได้ หากฝ่ายที่มีเก้าอี้มากกว่าตกเป็นของพรรคตรงข้ามอย่างรีพับลิกัน การบริหารงานของโจ ไบเดนตลอดสี่ปีของเขาก็จะไม่ราบรื่นนักเวลาที่มีความต้องการออกกฎหมายหรือเปลี่ยนแปลงกฎหมายมาตราต่างๆ ดังนั้นผลการเลือกตั้งในรัฐจอร์เจียจะมีส่วนช่วยกำหนดอนาคตของนโยบายพลังงานของประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

นโยบายรักษ์โลกในยุคของโจ ไบเดน

เมื่อสภาของสหรัฐฯ ในยุคของโจ ไบเดนมีความเป็นไปได้สูงแล้วที่จะได้แบ่งกันในสัดส่วนที่ใกล้เคียงมากๆ หมายความว่าหากผลการเลือกตั้งที่จอร์เจียออกมามีเก้าอี้ของรีพับลิกันที่มากกว่า  การโหวตผ่านกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น หากจะกล่าวว่าทิศทางตลาดพลังงานในสี่ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนของประชาชนในจอร์เจียก็คงจะไม่ผิดหนัก

หากในปีนี้ที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาตกเป็นของพรรครีพับลิกัน โดโมแครตอาจจะต้องรอไปถึงปี 2022 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งเฉพาะในสภาใหม่ที่อาจจะพอให้พวกเขาสามารถดำเนินตามโครงการ “โลกสีเขียว” ของไบเดนได้จริงๆ เพราะในช่วงปีสองปีข้างหน้านี้เราเชื่อว่าไบเดนอาจจะเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทผู้ผลิตน้ำมันมากนักเพราะยังต้องการให้บริษัทเหล่านี้จ้างพนักงานเพื่อลดอัตราการว่างงานในปัจจุบันให้กลับลงมาอยู่ในระดับปกติก่อน

ในขณะเดียวกันสิ่งที่โจ ไบเดน ต้องระวังคือการที่เขาเตรียมตัวจะออกห่างจากการผลิตน้ำมันด้วยตัวเองก็อาจทำให้การซื้อขายน้ำมันกับกลุ่มโอเปกกลับมามีผลเพิ่มมากขึ้น หมายความว่าประชาชนชาวอเมริกันจะได้ใช้น้ำมันที่แพงขึ้น และนั่นอาจนำไปสู่เสียงแห่งความไม่พอใจจากประชาชนภายในประเทศได้

ราคาน้ำมันในยุคหลังโควิด-19

การกลับมาของพรรคเดโมแครตย่อมหมายถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมก็จะกลับมามีผลบังคับใช้ซึ่งรวมไปถึงการลดความสามารถในการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิต และส่งออกน้ำมัน รวมถึงกฎข้อบังคับอื่นๆ มากมากมาย ในระยะสั้นเรื่องของโรคระบาดจะยังเป็นปัจจัยที่สร้างผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ 

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้เราก็พึ่งได้ทราบข่าวดีไปเมื่อบริษัทPfizer Inc (NYSE:PFE)ได้ออกมาประกาศว่าสามารถสร้างวัคซีนที่ต่อกรกับโควิดได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่โจ ไบเดนจะขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมกับยาที่ผลิตเสร็จแล้ว ปี 2021 อาจจะเป็นช่วงเวลาที่มนุษยชาติได้ดีใจอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามหลังจากการเลือกตั้งราคาของก๊าซธรรมชาติก็ยังปรับตัวลดลงจาก $3.40 ลงไปอยู่ต่ำกว่า $2.90 ต่อ MMBtu เมื่อวานนี้

ปัจจัยใดบ้างที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในโลกยุคหลังโควิด-19

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: CQG

จากรูปจะเห็นว่าราคาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมบนตลาด NYMEX ขึ้นมาจากจุดต่ำสุด $33.64 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนขึ้นมายืนเหนือ $40 ต่อบาร์เรลในวันที่ 9 พฤศจิกายน ข่าวดีดังกล่าวสามารถทำให้ราคาน้ำมันดิบสามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันตลอดทั้งปีที่ $40 ได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังมีปัจจัยหนุนอีกหากว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสองเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อในอนาคต แม้เงินเฟ้อจะส่งผลเสียต่อมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแต่ข่าวร้ายนั้นคือข่าวดีสำหรับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งน้ำมัน ทองคำและแร่อื่นๆ สรุปก็คืออันที่จริงแล้วผลการเลือกตั้งที่พึ่งผ่านไปนี้ไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีเพราะสุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วอย่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างหากที่จะทำให้ราคาน้ำมันสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญจริงๆ ในปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงนี้

 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย