ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี เงินเยนยังคงแข็งค่าขึ้น ดัชนีพ้องทางด้านสภาพเศรษฐกิจของ Cabinet Office ประจำเดือนเมษายนลดลงจากเดือนมีนาคม 0.9 จุดไปอยู่ที่ 99.6 ซึ่งต่ำกว่าฐาน 100 ซึ่งเป็นดัชนีรวมทางด้านเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากและเป็นตัวชี้วัดว่าสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันของญี่ปุ่นกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาลง
หลังจากที่ตัวเลขดัชนีดังกล่าวประกาศออกมาไม่นาน ภาษีผู้บริโภคก็ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 10% ในเดือนตุลาคม ซึ่งจะกระทบกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคจึงน่าจะทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวได้
เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง นักลงทุนจึงซื้อเงินเยนไว้เพื่อความปลอดภัย โดยยังไม่สนใจกับสภาพเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในปัจจุบันเท่าใดนัก
เศรษฐกิจของจีนก็เข้าสู่ช่วงชะลอตัว ก่อนที่จะมีการยกระดับความเสี่ยงในการเจรจาทางการค้าด้วยซ้ำไป ส่วนทางด้านยุโรปก็ยังคงพยายามฝ่ามรสุมทางด้านเศรษฐกิจรวมไปถึงความไม่แน่นอนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ด้วยปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้ภาพรวมในระดับมหภาคยังคงคลุมเครือ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นอย่าง Brexit อิหร่าน และเกาหลีเหนือที่ยังต้องนำมาพิจารณาด้วย
คู่เงิน USD/JPY ทำ double top ได้สมบูรณ์ในวันจันทร์ที่ผ่านมาในช่วงที่ราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าราคาต่ำสุดของวันที่ 22 มีนาคม การที่ราคาไม่สามารถทรงตัวอยู่เหนือราคาสูงสุดของช่วงต้นเดือนมีนาคมได้เป็นสัญญาณแรกที่ชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นเริ่มดูไม่ปกติ จากนั้นราคาก็เริ่มปรับตัวลดลงต่ำกว่า MA หลักหลายเส้นจนในที่สุดก็ลดลงต่ำกว่าราคาต่ำสุดของเดือนมีนาคมจึงทำให้รูปแบบนี้สมบูรณ์
MACD และ RSI ก็ทำรูปแบบดังกล่าวได้สมบูรณ์ทั้งคู่เช่นกัน และเส้น 200 DMA ยังคงรวบเส้น 50 DMA เอาไว้ได้ในขณะที่กำลังจะพุ่งขึ้นไปทำ golden cross สุดท้ายแล้วทั้งสองเส้นก็พบแนวต้านที่ระดับ neckline ที่ต่ำกว่า 110.00 จึงทำให้มีแนวโน้มสูงว่าจะเกิดจุดกลับตัวของดอลลาร์-เยน
กลยุทธ์การซื้อขาย
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ควรรอให้ราคาทะลุสู่ขาลงให้ลึกกว่านี้อีกเล็กน้อยจนไปทดสอบ trough ที่ 108.49 ของวันที่ 31 มกราคม แล้วรอให้เกิดการขยับกลับไปทดสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของรูปแบบอีกครั้ง โดยอย่างน้อยขอให้มีแท่งเทียนยาวสีแดงที่ยาวกว่าสีเขียวหรือแท่งที่เล็กกว่าสีใดก็ได้
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง อาจจะต้องรอให้ทะลุกรอบลงไปต่ำกว่านี้เพื่อรอให้เกิดการดึงกลับไปยัง neckline แต่ไม่จำเป็นต้องรอให้มีสัญญาณจุดกลับตัว แต่ควรรอให้เข้าใกล้แนวต้านเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง หากมีความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงได้ รวมทั้งมีการจัดการแผนการซื้อขายที่เหมาะสมกับขนาดทุนที่มีก็อาจทำ short ได้ทันที
ตัวอย่างการซื้อขาย
ราคาเข้า: 109.50
Stop-Loss: 110.00
ความเสี่ยง: 50 pips
เป้าหมาย: 108
ผลตอบแทน: 150 pips
อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3