นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นใน การแถลงข่าว ช่วงท้ายของการประชุมนโยบายทางการเงินต้นเดือนนี้ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายเชื่อว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่ 2% ตามเป้าหมายที่ธนาคารกลางวางไว้ แต่ในรายงานการประชุมยังมีข้อมูลอีกหลายอย่างที่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไปตามที่บอกว่าเงินเฟ้อจะเข้าเป้าได้ในเร็ววันนี้
ตลาดมีการปรับตัวเล็กน้อยเมื่อเห็น รายงานการประชุม ของคณะกรรมการตลาดเสรีกลางที่เปิดเผยออกมาในวันพุธ ซึ่งมักจะเปิดเผยให้ทราบหลังการประชุมเสร็จสิ้นประมาณ 3 สัปดาห์ รายงานการประชุมเป็นไปตามที่นายพาวเวลล์ได้ให้ความเห็นไว้ แต่ก็มีข้อมูลในรายงานด้วยว่า มีผู้เข้าร่วมประชุม "บางคน" แสดงความกังวลว่า “เป้าหมายเงินเฟ้อระยะยาวอาจต่ำกว่าหรือเสี่ยงที่จะต่ำกว่า 2% ซึ่งเป็นระดับที่คณะกรรมการกำหนดไว้” คณะกรรมการเชื่อว่าการที่อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงจะเป็นไปตามเป้าที่กำหนดยังต้องใช้เวลาอีกนาน
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงว่าอัตราเงินเฟ้อหลักซึ่งวัดได้จากดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่ไม่รวมอาหารและพลังงาน “น่าจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ในระยะกลางยังน่าจะต่ำกว่า 2%”
เป็นการยากที่จะทราบว่านายพาวเวลล์และผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงได้ด้วยปัจจัยชั่วคราวเท่านั้นจริงหรือไม่ ในรายงานยังระบุด้วยว่ามีการพยากรณ์ของทีมงานว่าอัตราเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE) จะมีค่าต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อหลักในปี 2020 และ 2021 เนื่องจากราคาพลังงานลดต่ำลง ซึ่งก็หมายความว่าจะต้องต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2%
แต่จะใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปีจริงหรือ? โดยเฉพาะในหลายปีที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อก็ยังคงต่ำกว่า 2% ด้วยเหตุปัจจัยชั่วคราวหลายประการ ผู้เข้าร่วมประชุม "หลายราย" กล่าวในรายงานการประชุมว่า
“หากอัตราเงินเฟ้อยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับขึ้นภายในไตรมาสหน้า ก็มีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อที่คาดหมายจะยังต่ำกว่าตัวเลข 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่คณะกรรมการกำหนดไว้”
การเพิ่มตัวเลขดังกล่าวยิ่งทำให้การบรรลุเป้าหมายระยะยาวของอัตราเงินเฟ้อสมดุลที่ 2% อย่างยั่งยืนเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น การซื้อขายสัญญาล่วงหน้ากองทุนธนาคารกลางเป็นตัวบอกอย่างชัดเจนว่าน่าจะมีการปรับลด อัตราดอกเบี้ย ก่อนสิ้นปีนี้ โดยไม่รอให้อัตราเงินเฟ้อต่ำลงในอีก 2 ปีข้างหน้า
รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่ามีผู้เข้าร่วมประชุม “บางคน” แสดงความกังวลว่าแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้ออาจเกิดขึ้นอย่างชัดเจนและรวดเร็วหากเศรษฐกิจเติบโตได้ตามที่คาด แต่ผู้เข้าร่วมประชุม "อีกส่วนหนึ่ง" คิดว่าอัตราเงินเฟ้อที่ซบเซาประกอบกับค่าแรงและผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอาจบ่งชี้ว่าการใช้ทรัพยากรยังไม่สูงเท่ากับ อัตราการว่างงาน ที่ยังต่ำ
สิ่งนี้มีความสำคัญมากกว่าการลดราคาเครื่องนุ่งห่มและการจัดการพอร์ตโฟลิโอให้ต่ำลงอย่างที่นายพาวเวลล์เสนอว่าเป็นปัจจัยชั่วคราวที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อต่ำ แต่กระนั้นคณะกรรมการของเฟดก็ยังยอมรับข้อมูลนี้ไว้
นายเจมส์ บัลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งรัฐเซนต์หลุยส์ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการตลาดเสรีกลางได้ให้ข้อชี้แนะในวันพุธว่าเฟดอาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าเศรษฐกิจจะยังเติบโตได้ดีเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามที่กำหนด
นายบัลลาร์ดซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ออกเสียงเลือกตั้งบอร์ดของเฟด (กลุ่มสมาชิกในบอร์ดของเฟดเป็นสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงถาวร เช่นเดียวกับประธานธนาคารกลางนิวยอร์ค และสมาชิกซึ่งเป็นผู้ว่าการธนาคารในเขตต่างๆ ที่เหลืออีก 11 คนจะหมุนเวียนกันมาใช้สิทธิ์ออกเสียงทุกๆ 2-3 ปี) กล่าวว่า ทางเลือกนี้อาจจะน่าสนใจหากอัตราเงินเฟ้อไม่ยอมขยับขึ้นภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า
เป้าหมายเงินเฟ้อ "สมดุล" ที่ 2% ซึ่งในขณะนี้กลายเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือไปแล้วนั้น เคยช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้เล็กน้อย โดยมีความเชื่อว่าเฟดจะทนต่ออัตราเงินเฟ้อที่สูงหรือต่ำกว่า 2% เล็กน้อยได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
วิธีการทำให้เกิดความสมดุลนั้นออกแบบมาเพื่อปรับอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นได้เล็กน้อยเท่านั้น แต่ตัวเลข 2% ยังคงอยู่สูงเกินไป เฟดจะทนต่ออัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่า 2% ได้นานพอๆ กับที่ทนอยู่กับช่วงที่เงินเฟ้อต่ำกว่า 2% ได้จริงหรือ ดังนั้นสิ่งที่ทำไปจึงน่าจะเป็นการกระทำเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือมากกว่าที่จะปรับอัตราเงินเฟ้อจริงๆ