เรื่องควรรู้ก่อนลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์

หากคุณกำลังอ่านโพสต์นี้อยู่ นั่นน่าจะหมายความว่าคุณสนใจหรืออย่างน้อยก็อยากรู้เกี่ยวกับ การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ แต่คุณอาจยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรและตรงจุดไหน หรือแม้กระทั่งว่ามันเป็นการลงทุนในแบบที่คุณต้องการหรือไม่

สินค้าโภคภัณฑ์คืออะไร?

ในการตัดสินใจว่าคุณควรเทรดสินค้าโภคภัณฑ์หรือไม่ คุณควรต้องรู้ก่อนว่าสินค้าโภคภัณฑ์นั้นคืออะไร (ในกรณีที่คุณยังไม่รู้): สินค้าโภคภัณฑ์ คือ วัตถุดิบหรือสินค้าทางการเกษตรที่คุณสามารถซื้อขายได้ ขณะที่ตลาดทั่วไปหรือตลาดเสมือนจริงที่คุณสามารถซื้อขายสินค้าเหล่านี้ได้ นั้นถือว่าเป็นตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งสิ้น สินค้าโภคภัณฑ์มี 3 หมวดหมู่ ได้แก่ Soft, Hard และ Energy

สินค้าโภคภัณฑ์ในหมวด Soft commodities คือ สินค้าทางการเกษตรต่าง ๆ เช่น เมล็ดกาแฟ ไม้แปรรูป เนื้อสัตว์ น้ำตาล ฯลฯ

สินค้าโภคภัณฑ์ในหมวด Hard commodities คือ สินค้าประเภทวัตถุดิบต่าง ๆ ที่สกัดมาจากเหมืองแร่ เช่น ทองคำ เงิน แพลเลเดียม ฯลฯ

สินค้าโภคภัณฑ์ในหมวด Energy commodities หมายถึง วัตถุดิบต่าง ๆ ที่นำมาใช้เพื่อผลิตพลังงาน เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และสินค้าประเภทคล้ายกันนี้

มีสินค้าโภคภัณฑ์พื้นฐาน รวมทั้งหมดจำนวน 100 รายการ ครึ่งหนึ่งของจำนวนเหล่านี้ถือว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์หลัก

สินค้าโภคภัณฑ์มีการซื้อและขายอย่างไร?

แม้ว่าคุณสามารถซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จริง ๆ และเก็บสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ไว้ได้เองก็ตาม แต่การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่จะกระทำผ่านทางตลาดกลางสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในอดีต ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุด เกิดขึ้นในยุคอาณาจักรซูเมอร์ (Sumer) เมื่อประมาณปี 4500-4000 ก่อนคริสตศักราช โดยสัญญาจะถูกเขียนลงบนแผ่นจารึกที่ทำจากดินเหนียว พร้อมระบุจำนวนของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละรายการ (เช่น จำนวนแพะ หรือ ปริมาณของข้าวสาลี) ที่สัญญาว่าจะส่งมอบให้ในภายหลัง ซึ่งไม่ต่างจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในทุกวันนี้

การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ - ข้อดี

การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ - ข้อเสีย

หมายเหตุสำคัญ - นักวิเคราะห์บางรายยืนกรานว่าข้อด้อยอีกอย่างหนึ่ง คือ สินค้าโภคภัณฑ์ไม่มีการสร้างรายได้ แต่นักวิเคราะห์ของเรา Barani Krishnan ระบุว่า: “ประเด็นสินค้าที่ไม่ก่อรายได้นี้ เป็นอะไรที่ผมขอแย้ง ทฤษฏีการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ยอดนิยมที่ถือว่านี่เป็นเกมที่มีผลรวมเป็นศูนย์ (กล่าวคือ ต้องมีคนแพ้เพื่อให้อีกคนเป็นผู้ชนะในเกม) นั้นเป็นทฤษฏีทีง่ายเกินไปเมื่อมองจากมุมความคิดที่หลากหลายกว่านั้น ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในการเกษตรที่มีกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ได้เพียงแค่คาดการณ์ราคาในอนาคตของสินค้าโภคภัณฑ์ที่คุณสนใจอยู่เท่านั้น แต่ยังได้รับรายได้จากสินค้าที่คุณเก็บเกี่ยวและขายอีกด้วย กองทุนเฮดจ์ฟันด์ Armajaro ที่ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว เคยดำเนินการในลักษณะดังกล่าว และเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนทรัพย์สิน/ผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดในสินค้าประเภทโกโก้/กาแฟในช่วงเวลานั้น

ยังมีข้อดีหรือข้อเสียอื่น ๆ อีกไหม? ร่วมแสดงความเห็นของคุณในคอมเมนต์