โดย Detchana.K
Investing.com - บมจ.ไทยออยล์เปิดเผยว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 63 ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง แม้โรงกลั่นสหรัฐฯ จะเพิ่มกำลังการกลั่นบ้างแล้ว
การที่บริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียประกาศยกเลิก Force majeure แหล่งผลิตน้ำมันดิบ Es Sider ทำให้ตลาดกังวลว่าลิเบียจะเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม บริษัทออกมาระบุว่าจะยังไม่มีการเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากแหล่งผลิตนี้
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ก.ค. 63 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 309 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากจีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 น้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวลว่าจีนและอินเดียจะส่งออกน้ำมันดีเซลมากขึ้น โดยเฉพาะหากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกยังทรงตัวในการซื้อขายวันนี้ โดยสัญญาณบวกเรื่องการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน ยังคงถูกบดบังด้วยเรื่องการแพร่ระบาดระลอกสองของโควิด-19 ที่ทำให้เริ่มมีการล็อคดาวน์ครั้งใหม่ในบางแห่ง
ราคาน้ำมัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTIราคาไม่ขยับ อยู่ที่ 40.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ขยับเพียง 3 เซนต์ อยู่ที่ 43.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 0035GMT