โดย Barani Krishnan
Investing.com – ภาพรวมของตลาดพลังงานและโลหะมีค่าในสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
ภาพรวมตลาดพลังงาน
ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านในตอนนี้คือ สุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายจะตกลงอะไรกันได้สักอยางหรือไม่ ที่ผ่านมาทั้งสองได้พยายามเลี่ยงการเปิดสงครามอย่างซึ่ง ๆ หน้ามาตลอด เห็นได้จากการที่ทรัมป์ได้สั่งยกเลิกการโจมตีเพื่อตอบโต้เอาคืนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ฉะนั้นจึงยังมีความหวังว่าสถานการณ์น่าจะลงเอยด้วยดี แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับทั้งสองฝ่ายก็ตาม
การเจรจากับอิหร่านจะทำให้ทรัมป์สามารถบรรลุจุดประสงค์สองประการของตนได้ในทันที นั่นก็คือ ราคาน้ำมันที่ลดลงและโอกาสในการแก้ไข "ความผิดพลาด" ที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของโอบามา
ในที่สุดประธานาธิบดีทรัมป์ก็จะลำพองใจได้ว่า "ข้อตกลงระหว่างอิหร่านของทรัมป์" จะเป็นข้อตกลงที่ดีกว่าฉบับที่โอบามาเคยทำไว้ในปี 2015 ที่เขาขนานนามว่าเป็น "ข้อตกลงที่แย่ที่สุดที่เคยมีมา"
การเจรจากับอิหร่านถือเป็นการกระทำที่สมเหตุสมผลสำหรับทรัมป์ เพราะเขาต้องการให้ราคาน้ำมันลดลงเพื่อให้ราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ถูกลงก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ของเขาในเดือนพฤศจิกายนปี 2020
ในอดีตทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่า เขาต้องการให้กลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วยอัตรา 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานให้แก่ผู้อุปโภคในสหรัฐฯ แต่กลุ่มโอเปกกลับดำเนินการไปยังทิศทางที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ด้วยการลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2018 และจะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงเดือนมีนาคมปี 2020
ฉะนั้นด้วยตรรกะความคิดดังกล่าวจึงทำให้ทรัมป์ยอมเจรจากับอิหร่าน เพราะกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรลต่อวันที่เขาต้องการจากโอเปกนั้นอยู่ในกำมืออิหร่าน เห็นได้จากเมื่อครั้งที่อิหร่านลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐสมัยรัฐบาลของโอบามาในปี 2015 ที่ทำให้อิหร่านสามารถผลิตน้ำมันได้มากสุดถึง 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบก็ลดลง อันเป็นการชดเชยผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคนแบร์รี ซึ่งพัดขึ้นชายฝั่งบริเวณกลางรัฐหลุยเซียนาเป็นลมพายุระดับ 1 ก่อนที่จะอ่อนแรงลงกลายเป็นพายุโซนร้อนในที่สุด บริษัทผู้ผลิตน้ำมันต่าง ๆ จึงได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งและก่อให้เกิดแรงกดดันแก่ราคาน้ำมัน
ปฏิทินตลาดพลังงานสัปดาห์นี้
วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม
รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์จาก สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม
รายงาน น้ำมันดิบคงคลัง รายสัปดาห์จาก EIA
วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม
รายงาน ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลัง รายสัปดาห์จาก EIA
วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันจาก Baker Hughes
ภาพรวมตลาดโลหะมีค่า
แม้ว่าประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ จะไม่ยี่หระต่อการโจมตีจากทรัมป์ ด้วยการชี้แจงว่าธนาคารกลางมีความเป็นเอกเทศและไม่เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องตอบโต้แรงกดดันทางการเมืองในระยะสั้นก็ตาม แต่ตลาดเชื่อว่าอย่างน้อยจะต้องมีการลดอัตราดอกเบี้ย .25 จุด อีกทั้ง เครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยของเฟด จาก Investing.com ก็ได้ระบุว่ามีโอกาสถึง 60% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยถึง 50 จุดหลังจากการประชุมนโยบายทางการเงินในเดือนกันยายน ทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะอยู่ที่ระหว่าง 1.75% ถึง 2%
นอกจากเฟดแล้ว ธนาคารกลางทั่วโลกก็เริ่มมีท่าทีที่เอนเอียงไปทางนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น ถือเป็นผลดีแก่ทองคำที่เป็นสินทรัพย์แบบไม่มีผลตอบแทน
ตลาดคาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะส่งสัญญาณการใช้นโยบายแบบผ่อนคลายมากขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยเมื่อวันศุกร์ตลาดเชื่อว่ามีโอกาสมากเกิน 50% ที่ธนาคารกลางยุโรปจะลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารกลางขนาดย่อมอื่น ๆ อย่างเกาหลีใต้หรือแอฟริกาใต้ ต่างก็ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
กระแสการลดอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้อย่างเป็นวงกว้าง ส่งผลให้มีตราสารหนี้มูลค่าถึง 13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่มีผลตอบแทนที่ติดลบ ยิ่งช่วยสร้างแรงดึงดูดให้แก่ทองคำ
อ้างอิงจากผลสำรวจของ World Gold Council และ YouGov ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากท่าทีของธนาคารกลางต่าง ๆ แล้ว ดูเหมือนว่าการ "รุมซื้อ" ทองคำจะดำเนินต่อไปยันปีหน้าเลยทีเดียว
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า สำหรับการส่งมอบเดือนสิงหาคม ในตลาดโคเม็กซ์ของนิวยอร์ค เมอร์แคนไทล์ เอ็กซ์เชนจ์ ปรับลง $1.40 และมีราคาปิดที่ $1,426.70
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาทองคำ ปรับขึ้น 0.6% แม้ว่าข้อมูลภาคอสังหาฯ ของสหรัฐฯ จะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ก็ตาม ส่วน IMF ก็ได้ออกมาชี้ว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ "แข็งค่าเกินไป" อีกด้วย
ปฏิทินตลาดโลหะมีค่าสัปดาห์นี้
วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม
ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ (มิ.ย.)
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่น (ก.ค.)
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของฝั่งยูโรโซน (ก.ค.)
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ (ก.ค.)
ดัชนี PMI ภาคกิจการบริการของสหรัฐฯ (ก.ค.)
ยอดขายบ้านมือหนึ่งสหรัฐฯ (มิ.ย.)
วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ (มิ.ย.)
ดุลการค้าสหรัฐฯ (มิ.ย.)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ
ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของเยอรมนีจาก Ifo
การประชุมเพื่อพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป
วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม
ตัวเลข GDP ล่วงหน้าของสหรัฐฯ