โดย Gina Lee
Investing.com - น้ำมันปรับตัวลงต่ำ ในเช้าวันพฤหัสบดี ในเอเชีย หลังนักลงทุนย่อยใช้ปริมาณน้ำมันดิบในคลังของสหรัฐเล็กน้อย แต่น่ส่งผลให้อุปสงค์เชื้อเพลิงกลับมาน่ากังวลอีกครั้ง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนต์ ลดลง 0.37% สู่ 55.87 ดอลลาร์ภายในเวลา 22:02 น. ตามเวลา ET (03:02 น. GMT) และ น้ำมันดิบ ลดลง 0.34% สู่ระดับ 53.13 ดอลลาร์ ทำให้ผลกำไรบางส่วนที่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมาจากความหวังของมาตรการกระตุ้น COVID-19 ครั้งใหญ่ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจไบเดนของสหรัฐฯที่เพิ่งเปิดตัว แต่ฟิวเจอร์สทั้งเบรนท์และน้ำมันดิบยังคงยืนเหนือระดับ 50 ดอลลาร์อย่างมั่นคง
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ พบว่ามีการขุดน้ำมันเพิ่ม 2.562 ล้านบาร์เรลในวันสิ้นสุดสัปดาห์วันที่ 15 มกราคม ซึ่งเทียบกับการคาดการณ์ที่วาดไว้ 300,000 บาร์เรล และการดึง 5.821 ล้านบาร์เรลบันทึกไว้ในสัปดาห์ก่อนหน้า
“ ราคาน้ำมันดูมีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อการขายทำกำไรหลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมาก 2.56 ล้านบาทจากฉันทามติ” Stephen Innes หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของ Axi กล่าว
อย่างไรก็ตามข้อมูลเดียวกันนี้ยังแสดงให้เห็นว่ามีปริมาณการกลั่นน้อยกว่าที่คาดไว้ในสต็อกน้ำมันเบนซินและสินค้าคงเหลือจากการกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซล ค่ากลั่นและน้ำมันเครื่องบิน
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจาก U.S. Energy Information Administration จะประกาศในวันศุกร์
ข้อจำกัดด้านการเดินทางซึ่งเป็นผลกระทบจาก COVID-19 กำลังส่งผลกระทบต่อแนวโน้มความต้องการน้ำมันในระยะสั้น แม้ว่านักลงทุนจะมองไปไกลกว่านั้นด้วยความหวังว่าการเปิดตัววัคซีนจะช่วยบรรเทาการล็อคดาวน์ได้
“ในขณะเดียวกันการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันดิบของจีนก็ดูสูง และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลงแม้จะมีการชะลอตัวของประเทศในช่วงก่อนตรุษจีน”
ในขณะเดียวกัน ไบเดนผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในการดำเนินการแรกของเขาคือการเพิกถอนใบอนุญาตสำหรับโครงการท่อขนส่งน้ำมัน Keystone XL จากแคนาดา รวมทั้งประกาศให้อเมริกากลับสู่อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของปารีส
ฝ่ายบริหารของไบเดนมุ่งมั่นที่จะยุติการเช่าซื้อน้ำมันและก๊าซใหม่ในดินแดนของรัฐบาลกลางด้วยเช่นกัน Jen Psaki เลขาธิการสื่อมวลชนของไบเดนกล่าว แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวชัดเจน