โดย Adam Claringbull
Investing.com – ราคาน้ำมันดีดขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย แม้แท่นขุดเจาะน้ำมันอ่าวเม็กซิโกทยอยเปิดทำการหลังพายุเฮอร์ริเคนแซลลีผ่านพ้นไปแล้ว ทั้งนี้การประชุม OPEC+ เมื่อวานนี้ได้เตือนว่าประเทศสมาชิกที่มีกำลังการผลิตน้ำมันเกินมีส่วนทำให้อุปทานน้ำมันสูงขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ดีดขึ้น 0.46% to $43.50 เมื่อเวลา 23:33 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (4:33 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ดีดขึ้น 0.39% เท่ากับ $41.13 ทั้งสองดัชนียังคงอยู่เหนือระดับราคา $40 ต่อบาร์เรล
แท่นขุดเจาะน้ำมันที่อ่าวเม็กซิโกกลับมาปฏิบัติงานอีกครั้งหลังจากพายุเฮอร์ริเคนแซลลีผ่านพ้นไปแล้ว ทว่ายังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานเกินท่ามกลางอุปสงค์น้ำมันโลกที่ต่ำมาก
สิ่งกลั่นคงคลังสหรัฐที่มีอุปทานเกินก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เห็นได้จากตัวเลขของสำนักงานสารสนเทศพลังงาน (EIA) ที่สูงขึ้น 3.461 ล้านบาร์เรล ต่างจากที่คาดไว้ว่าจะสูงขึ้นเพียง 0.6 ล้านบาร์เรล
ทว่าในทางตรงกันข้าม ในการประชุมของคณะกรรมการร่วม OPEC+ (JMMC) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซาอุฯ เจ้าชายอับดุลาซิช บิน ซัลมาน ได้ส่งสัญญาณเตือนอย่างรุนแรงต่อประเทศสมาชิกที่เคยตกลงลดกำลังการผลิตลง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) เมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีบางประเทศที่มีกำลังการผลิตเกิน (โดยเฉพาะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
การระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลให้อุปสงค์อยู่ในระดับต่ำ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ประจำวันที่ 18 กันยายน เผยว่ามียอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งทะลุถึง 30 ล้านรายแล้ว