- ผลการตัดสินใจของเฟด
คาดว่าเฟดจะ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม เมื่อถึงการประชุมในวันพุธนี้ หลังจากลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้วทั้งหมดสามครั้งในปีนี้เพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลง และตัวเลข การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์เมื่อวันศุกร์ก็ได้หนุนความคาดหวังว่าคณะสมาชิกจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยขณะที่รอดูทิศทางของเศรษฐกิจต่อไป
หลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ กล่าวว่าทั้งสภาพเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินในขณะนี้ "อยู่ในจุดที่เหมาะสมแล้ว" และชี้ว่าคณะสมาชิกเล็งเห็นว่าแทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้อีก
- ผลการตัดสินใจของ ECB
นางคริสทีน ลาการ์ด จะเป็นผู้นำการประชุมและการแถลงข่าวครั้งแรกในฐานะประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ แม้ว่าตลาดคาดว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นโยบายทางการเงิน หลังจากการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ECB เมื่อเดือนกันยายน และหลังจากสัญญาณล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนเริ่มพลิกฟื้นขึ้นมาแล้ว
ถึงกระนั้นตลาดก็จะจับตาคำกล่าวของนางลาการ์ดว่ามีทัศนะอย่างไรบ้างเกี่ยวกับนโยบายทางการเงิน เศรษฐกิจ และการพิจารณากลยุทธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จากแปดปีที่ผ่านมาที่ตลาดเคยชินกับคำกล่าวอย่างตรงไปตรงมาของนายมาริโอ ดรากี ดังนั้นวิธีการสื่อสารของผู้นำ ECB คนใหม่ก็จะเป็นที่น่าเฝ้าสังเกตด้วยเช่นกัน
- สถานการณ์ทางการค้ามีความยืดเยื้อ
จีนและสหรัฐฯ ต่างก็พยายามที่จะสรุปข้อตกลง 'ขั้นแรก' ที่จะยุติสงครามทางการค้าอันเป็นแรงกดดันต่อตลาดโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่กินเวลามากว่า 17 เดือน ทว่าถึงตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงรายละเอียดกันได้
ยังเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะถึงเส้นตายวันที่ 15 ธันวาคมที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจีนส่วนที่เหลืออีกเป็นมูลค่า 1.56 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตลาดการเงินได้รับผลกระทบอย่างหนักจากทิศทางของสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปมาอยู่บ่อยครั้ง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการเจรจาทางการค้ากับจีน "กำลังคืบหน้าไปได้ด้วยดี" สร้างแรงกระตุ้นในแง่บวกแม้ทางรัฐบาลจีนจะออกมาเน้นย้ำแล้วว่าการยกเลิกภาษีศุลกากรจีนจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางการค้าขั้นแรก ทว่าในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้วปธน.ทรัมป์ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดโลกด้วยการเผยว่าสหรัฐฯ อาจพักการทำข้อตกลงทางการค้าไปจนถึงหลังการเลือกตั้งในปี 2020
- การเลือกตั้งสหราชอาณาจักร
เป็นเวลามากกว่าสามปีมาแล้วหลังจากสหราชอาณาจักรลงมติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยในการเลือกตั้งวันที่ 12 ธันวาคมนี้จะเสนอทางเลือกให้สำหรับประชาชนว่าต้องการให้ Brexit ออกมาในทิศทางไหนและจะยังต้องการให้เดินหน้าต่อไปอีกหรือไม่
ผลสำรวจความคิดเห็นที่ชี้ว่าพรรคอนุรักษนิยมมีคะแนนนำโด่งได้หนุน ค่าเงินปอนด์ แข็งค่าขึ้น ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าพรรคอนุรักษนิยมจะจัดการกับ Brexit อย่างรวดเร็วและยุติความคลุมเครือที่กดดันเศรษฐกิจอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2016
หลังจากการเลือกตั้ง ตลาดจะหันไปให้ความสนใจกับระยะเวลาอีก 11 เดือนที่สหราชอาณาจักรจะต้องลงนามข้อตกลงกับสหภาพยุโรป ซึ่งน่าจะทำให้ผู้ลงทุนค่อนข้างหวั่นใจอยู่พอสมควร
- ความผันผวนของตลาด