รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (16 - 20 ธ.ค.)

เผยแพร่ 16/12/2562 09:47
อัพเดท 16/12/2562 10:29
© Reuters.

Investing.com - ห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้

  1. ความผันผวนของสถานการณ์ทางการค้ายังคงดำเนินต่อไป


เมื่อวานนี้จีนได้ออกมาประกาศยกเลิกการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บางรายงานที่เดิมมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคมแล้ว หลังจากเมื่อวันศุกร์ทั้งสองประเทศมหาอำนาจได้เห็นชอบข้อตกลง "ขั้นแรก"

ข่าวลือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงฉบับนี้ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดซื้อขายทั่วโลกมาหลายเดือน โดยครั้งนี้สหรัฐฯ ตกลงว่าจะปรับลดภาษีศุลกากรจีนบางรายการเพื่อแลกกับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ แต่ทั้งสองฝ่ายกลับยังไม่ได้เผยปริมาณการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่จีนได้ตกลงสั่งซื้อแต่อย่างใด

และแม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกมาประกาศว่า การเจรจาทางการค้า "ขั้นที่สอง" จะดำเนินต่อทันที แต่จีนกลับยืนกรานว่าการเจรจาทางการค้าขั้นต่อไปจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการบังคับใช้ข้อตกลงขั้นแรก

  1. ความคลุมเครือของ Brexit จะลดลงจริงหรือไม่

ชัยชนะอย่างใสสะอาดของพรรคอนุรักษนิยมที่นำโดยนายบอริส จอห์นสัน ได้ปูทางให้สหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 มกราคมนี้ และกระบวนการถอนตัวก็สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่การเปิดสภาด้วยการให้คำกล่าวจากพระราชินีในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคำกล่าวของพระราชินีมักจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่รัฐบาลวางแผนที่จะบังคับใช้ในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า

รัฐมนตรีอังกฤษ นายไมเคิล โกฟ ได้กล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่า ประเด็นเร่งด่วนของรัฐบาลอังกฤษคือการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 มกราคมและทำข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่กับสหภาพยุโรปภายในสิ้นปีหน้า

ในวันพฤหัสบดีนี้จะเป็นโอกาสแรกของ ธนาคารกลางอังกฤษ ในการดูทิศทางของเศรษฐกิจหลังจากการเลือกตั้ง โดยผู้ลงทุนจะจับตาการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในมุมมองของธนาคารเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ เศรษฐกิจโดยรวมของอังกฤษ และภาพรวมด้านอัตราดอกเบี้ยสำหรับปี 2020

  1. สมาชิกเฟดให้คำกล่าว

ตลาดจะเฝ้าจับตาการให้คำกล่าวของสมาชิกเฟดหลายท่านในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากเฟดได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและจะคงอัตราดอกเบี้ยเช่นนี้ไปจนถึงปี 2020 โดยประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ชี้ว่าธนาคารฯ เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเป็นไปในทิศทางที่น่าพอใจ

ประธานเฟดประจำดัลลัส นายโรเบิร์ต แคปแลน, ประธานเฟดประจำนิวยอร์ก นายจอห์น วิลเลียมส์ และประธานเฟดประจำบอสตัน นายเอริค โรเซนเกรน ล้วนมีกำหนดการให้คำกล่าวในวันพรุ่งนี้ ส่วนประธานเฟดประจำชิคาโก นายชาร์ลส์ อีวานส์ มีกำหนดการให้คำกล่าววันมะรืนนี้

  1. ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ประกอบไปด้วย ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, รายรับ และ รายจ่าย ส่วนบุคคล และการปรับตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่สาม

นักวิเคราะห์ท่านหนึ่งจาก ING ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า “ภาพรวมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ น่าจะยังแสดงให้เห็นถึงภาวะการถดถอยในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลกระทบมาจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการค้าผนวกกับอุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลงและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ทว่าพนักงานราว 50,000 รายจาก General Motors จะเริ่มกลับไปทำงานภายหลังการประท้วงหยุดงานครั้งล่าสุด ซึ่งน่าจะส่งผลให้ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยานยนต์พลิกฟื้นขึ้น"

  1. เยอรมนีจะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยใน Q4 ได้หรือไม่

ข้อมูลแรกที่จะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซนอย่างเยอรมนีจะหลุดรอดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในไตรมาสที่สี่ได้หรือไม่ คือตัวเลข PMI ประจำเดือนพฤศจิกายน

ก่อนหน้านี้ดัชนีทางเศรษฐกิจจาก Citi ได้สร้างความประหลาดใจ ด้วยการเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนที่ออกมาดีกว่าผลคาดการณ์และขยายตัวในระดับที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 ซึ่งตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ออกมาเกินคาดคือตัวเลขการส่งออกเยอรมนีประจำเดือนตุลาคมที่ขยายตัวขึ้น 1.2% ต่างจากผลคาดการณ์ที่คาดว่าจะหดตัวลง

ตลาดมีความคาดหวังสูงมากว่าตัวเลขการส่งออกและการบริโภคภาคเอกชนของยุโรปจะยังคงตัว หลังจาก PMI เมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นถึงการทรุดตัวอย่างหนักของภาคการผลิตทั่วยุโรป

--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย