โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนในวันอังคารที่ 24 มีนาคมมีดังต่อไปนี้
1. นโยบายของวุฒิสภาสหรัฐถูกกีดกันอีกครั้ง
มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของวุฒิสภาซึ่งขณะนี้มีมูลค่าสูงสุดถึง 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐยังคงหยุดนิ่ง เนื่องจากพรรคเดโมแครตได้คัดค้านขอบข่ายของมาตรการดังกล่าวและเชื่อว่าผลประโยชน์จะตกเป็นของธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น
โฆษกประจำสภาสหรัฐ แนนซี เพโลซี ได้ประกาศมาตรการขั้วตรงข้ามที่มีมูลค่า 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งเน้นการกระจายเงินให้กับครัวเรือนและธุรกิจขนาดย่อม
อ้างอิงจากข้อมูลของสถาบันจอห์น ฮอปกินส์ จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในสหรัฐได้ทะลุ 46,000 รายไปแล้ว และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คน โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 125 รายที่มาจากนิวยอร์กซีตี
ทางด้านประเทศไทยก็ได้มีการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินในวันนี้ ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอินโดนิเซียก็พุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
2. อิตาลีอาจพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว
ในวันนี้อิตาลีได้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน จุดประกายความหวังว่าสถานการณ์ภายในประเทศอิตาลีอาจเริ่มคลี่คลายลง
ทั้งตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นอิตาลีได้เด้งกลับขึ้นมาอย่างฉับพลันหลังจากมีรายงานว่า เยอรมนียินดีที่จะอนุมัติเงินกู้ภายใต้โครงการกลไกความช่วยเหลือทางการเงินของยุโรป (ESM) เพื่อต่อกรกับการระบาดของเชื้อไวรัส
ทว่ารัฐมนตรีทางเศรษฐกิจเยอรมนีกลับสงวนท่าทีเกี่ยวกับแผนการออกสินเชื่อร่วมของฝั่งยูโรโซน โดยคณะรัฐมนตรีการคลังยุโรปหรือ Eurogroup จะประชุมกันในช่วงครึ่งหลังของวันนี้และคาดว่าน่าจะมีการหารือกันเกี่ยวกับการประกาศใช้มาตรการในประเทศต่าง ๆ เช่นอิตาลี สเปน และโปรตุเกส
3. ตลาดหุ้นเด้งกลับขึ้นมาครั้งใหญ่
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวพุ่งทะยานขึ้นตามรอยตลาดหุ้นเอเชียและยุโรป ท่ามกลางการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไม่มีขีดจำกัดของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อวานนี้
เมื่อเวลา 6:55 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1055 GMT) การซื้อขายในสัญญาซื้อขายดัชนีล่วงหน้าต่าง ๆ ของสหรัฐถูกระงับหลังจากทะยานขึ้นมากกว่า 5%
ดัชนี Stoxx 600 ทะยานขึ้น 5.0% ส่วนดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นปิดบวก 7.0% ดัชนี CSI 300 ของจีนบวกขึ้น 2.4%
4. ดัชนี PMI ออกมาย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) โดยรวมของฝั่งยูโรโซนจาก IHS Markit ออกมาต่ำเกินคาดในเดือนมีนาคมที่ 31.4 จากเดือนกุมภาพันธ์ที่ 51.6 ส่วนดัชนี PMI ในสหราชอาณาจักรก็ลดลงเหลือ 37.1 ต่ำกว่าที่คาดไว้ 45.1
ทางด้านดัชนี PMI ภาคกิจการบริการทั่วทั้งภูมิภาคต่างก็ทรุดตัวลงมากกว่าภาคอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นว่ากิจการภาคการค้าปลีก การท่องเที่ยว และธุรกิจบันเทิงต่างก็เป็นอัมพาต
ส่วนดัชนี PMI ของสหรัฐจาก Markit จะมีกำหนดการในเวลา 9.45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก และผลสำรวจทางธุรกิจจากเฟดประจำริชมอนด์ก็คาดว่าจะดิ่งลงตามดัชนีเฟดประจำฟิลาเดลเฟียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
5. ราคาน้ำมันพลิกฟื้น หลังสหรัฐ-ซาอุฯ มีแววว่าจะร่วมมือกัน
ราคาน้ำมันเด้งกลับขึ้นมาอย่างฉับพลันหลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐ นาย Dan Brouillette บอกใบ้เกี่ยวกับข้อตกลงการร่วมมือกันกับซาอุดีอาระเบียเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
ทั้งนี้เขาเสริมว่า “เมื่อถึงจุดหนึ่งเราก็จะต้องดำเนินการทางการทูต แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจในลักษณะดังกล่าว"
เมื่อเวลา 6:45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1045 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐ ทะยานขึ้น 6.4% เท่ากับ $24.86 ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ขยับขึ้น 4.6% เท่ากับ $28.27 ต่อบาร์เรล