โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคมมีดังต่อไปนี้
1. ครม. ฝรั่งเศสลาออกยกชุดหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่น
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส นายเอดูอาร์ด ฟีลิปเป ได้ลาออกพร้อมกับคณะรัฐมนตรีทั้งชุด เบิกทางให้ประธานาธิบดี นายเอ็มมานูเอล มาครง ปูรากฐานนโยบายครั้งใหม่ในวาระการดำรงตำแหน่งอีกสองปีที่เหลือ
การเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรีเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหมายไว้อยู่แล้ว สืบเนื่องมาจากการพ่ายแพ้ของพรรครีพุบลีค ออง มาร์ช ของนายมาครงในการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทว่าการลาออกของรัฐบาลทั้งชุดถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมาก และด้วยครม.ชุดใหม่ ต่อจากนี้มาครงก็น่าจะพยายามดึงฐานเสียงกลับมามากขึ้นจากพรรคกรีนที่เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์
2. มาตรล็อกดาวน์สิ้นสุดลงแล้ว ถึงเวลาไปผับ
สหราชอาณาจักรจะอนุญาตให้ผับ ร้านอาหาร และโรงแรมเปิดทำการในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ว่าสหราชอาณาจักรมีประสิทธิภาพมากพอที่จะควบคุมการระบาดหรือไม่
ยอดผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักรขณะนี้เท่ากับหนึ่งในสิบจากยอดผู้ติดเชื้อเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม แต่ความหวาดหวั่นต่อการระบาดระลอกที่สองเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในสัปดาห์นี้หลังจากรัฐบาลอังกฤษได้สั่งปิดเมืองเลสเตอร์ และมีการพบกลุ่มผู้ติดเชื้อที่โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์
ค่าเงินปอนด์ค่อนข้างคงตัวอยู่ที่ 1.2450 ดอลลาร์สหรัฐและ 1.1088 ยูโร
3. ตลาดหุ้นปรับตัวลงแม้ดัชนี PMI ออกมาแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากเปิดตัวอย่างสดใส หลังจากผลสำรวจทางธุรกิจภาคกิจการบริการที่ออกมาดีเกินคาดกลับไม่สามารถรักษาแรงส่งขาขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานนี้
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) ดัชนี Stoxx 600 ขยับลง 0.6% แต่ยังคงเตรียมส่งมอบขาขึ้น 2.1% ส่วนดัชนี DAX ของเยอรมนีขยับลง 0.6% ดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรติดลบ 1.0% ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสขยับลง 0.9%
ก่อนหน้านี้ IHS Markit ได้ออกมาประกาศว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อโดยรวมของยูโรโซนในเดือนมิถุนายนสูงขึ้นเป็น 48.5 สูงกว่าที่คาดไว้แต่ยังคงต่ำกว่า 50 ซึ่งเป็นระดับที่บ่งบอกถึงการขยายตัว
4. อินเดียเริ่มตอบโต้เอาคืนจีน
อินเดียเริ่มออกโรงตอบโต้จีน ภายหลังจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารของทั้งสองประเทศที่พรมแดนพิพาทเมื่อเดือนที่แล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงจากคำกล่าวของรัฐมนตรี Raj Kumar Singh ของอินเดียว่า รัฐบาลอินเดียกำลังวางแผนที่จะขึ้นภาษีศุลกากรสำหรับการนำเข้าสินค้าประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าที่มาจากจีนเป็นหลัก
สัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลอินเดียได้ประกาศแบนแอพที่พัฒนาโดยจีนหลายแอพ อาทิแอพบริการวิดีโอสั้น TikTok และบริการรับส่งข้อความ WeChat โดยนายกรัฐมนตรีอินเดีย นายนเรนทรา โมดี ได้สั่งการให้อินเดียเฟ้นหาแหล่งนำเข้าสินค้าเพื่อทดแทนตลาดจีน ซึ่งจีนเป็นตลาดการนำเข้าหลักของอินเดียเมื่อปีที่แล้ว และเป็นแหล่งการลงทุนภายนอกประเทศที่มีมูลค่าถึง 1.64 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
5. ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังสมาชิก OPEC+ เริ่มสั่นคลอน
ราคาน้ำมันปรับตัวลงแต่ยังคงยืนอยู่เหนือระดับ $40 ต่อบาร์เรล หลังจากประเทศแองโกลาประกาศว่ายังไม่พร้อมที่จะลดกำลังการผลิตตามโควตาที่ได้ตกลงกันไว้ในกลุ่ม OPEC+ อย่างน้อยจนถึงไตรมาสที่สี่
สำหรับกลุ่ม OPEC+ แล้ว การฟื้นอุปทานในตลาดน้ำมันนั้นขึ้นอยู่กับการลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยส่วนต่างที่บางประเทศผลิตน้ำมันเกิน และเมื่อเดือนที่แล้วมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียได้ข่มขู่ว่าจะรื้อฟื้นสงครามราคาน้ำมันอีกครั้งด้วยการตัดราคาน้ำมันของแองโกลาหากไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
เมื่อเวลา 6:45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1045 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐ ขยับลง 1.2% เท่ากับ $40.15 ต่อบาร์เรล สัญญาเบรนท์ ติดลบ 1.3% เท่ากับ $42.59 ต่อบาร์เรล