รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 ปัจจัยสำคัญในการลงทุนฝั่งอเมริกา-ยุโรปสำหรับวันนี้ (3 ส.ค.)

เผยแพร่ 03/08/2563 17:24
อัพเดท 03/08/2563 17:45
© Reuters.

โดย Peter Nurse 

Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคมมีดังต่อไปนี้

1. จับตาความคืบหน้าของ TikTok

ล่าสุดแอพแชร์วิดีโอสัญชาติจีน TikTok ได้กลายเป็นชนวนสำคัญในความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างสหรัฐและจีน

ทว่า Microsoft อาจมีทางออกให้กับความขัดแย้งครั้งนี้หลังจากบริษัทได้ออกมาเผยถึงการเจรจาเพื่อซื้อกิจการแอปในสหรัฐจาก Bytedance ซึ่งเป็นเจ้าของแอป

สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของ Microsoft ได้เจรจากับประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการซื้อกิจการเมื่อวานนี้ และสำนักข่าวรอยเตอร์สได้รายงานว่าประธานาธิบดีได้ให้เวลา Microsoft 45 วันในการเจรจาทำข้อตกลงซื้อกิจการดังกล่าว

หาก Microsoft เสนอซื้อกิจการแอปได้สำเร็จก็หมายความว่า Microsoft จะกลายเป็นคู่แข่งรายสำคัญต่อบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook (NASDAQ:FB) และ Snapchat

2. "การระบาดครั้งใหญ่" ของไวรัสโคโรนาในสหรัฐ

ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนายังคงพุ่งสูงขึ้นในสหรัฐ โดยเดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการระบาด นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการระบาดของไวรัสโคโรนาประจำทำเนียบขาวก็ได้ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ด้วยว่าขณะนี้สหรัฐได้เข้าสู่การระบาดเฟสใหม่แล้ว

"เราได้เข้าสู่เฟสใหม่แล้ว" ดร. เดโบราห์ เบิร์กซ์ กล่าว "สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้นแตกต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายน มันเป็นการระบาดครั้งใหญ่" ทั้งในพื้นที่ชนบทและในเมืองด้วย

"สำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท คุณไม่ได้มีความเสี่ยงน้อยลงหรือรอดพ้นจากการติดเชื้อไวรัส"

ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 150,000 รายและถือเป็นประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตที่สูงที่สุดในโลก

3. ผลประกอบการในแง่บวกช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐ

ตลาดหุ้นสหรัฐคาดว่าจะคงตัวโดยส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยดัชนี Nasdaq เตรียมเปิดตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ได้รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อเวลา 6:30 น. (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ดีดขึ้น 20 จุดหรือ 0.1% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ขยับขึ้น 0.3% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับตัวขึ้น 0.7%

ดัชนีเหล่านี้ทำผลงานในเดือนกรกฎาคมได้แข็งแกร่ง โดย ดัชนีอุตสาหกรรม Dow ขยับขึ้น 2.4% ส่วน S&P 500 ปรับตัวขึ้น 5.5% ซึ่งเป็นเดือนกรกฎาคมที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี ดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวขึ้น 6.8%

สัปดาห์นี้ประกอบไปด้วยการรายงานผลประกอบการจากบริษัทใน S&P 500 ถึง 130 บริษัท โดยในวันนี้จะประกอบไปด้วยผลประกอบการของ Tyson Foods (NYSE:TSN) และ Clorox (NYSE:CLX) ก่อนเวลาตลาดเปิด และ Virgin Galactic (NYSE:SPCE) หลังเวลาตลาดปิด

4. ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐจาก ISM คาดว่าจะขยายตัว

ตัวเลขจากตลาดแรงงานสหรัฐ ในวันศุกร์นี้จะเป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ แต่ก่อนหน้านั้นจะมีการรายงาน ดัชนีภาคการผลิต จากสถาบันการจัดการอุปทาน (ISM) ในวันนี้เวลา 10.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (14:00 GMT) 

คาดว่าค่าดัชนีในเดือนกรกฎาคมจะสูงขึ้นเล็กน้อย 53.6 จากเดือนที่แล้ว 52.6 และแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงขยายตัว แม้ว่ามาตรการควบคุมโรคที่ได้มีผลบังคับใช้อีกครั้งในบางรัฐอาจส่งผลให้ค่าดัชนีออกมาลดลงเกินคาดก็เป็นได้

ในช่วงครึ่งแรกของวันนี้ ดัชนีภาคการผลิตโดยรวมของยูโรโซนก็ออกมาขยายตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2019 ขณะที่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิตจาก IHS Markit ในเดือนกรกฎาคมก็สูงขึ้น 51.8 จากเดือนมิถุนายน 47.4

ตัวเลขจากทางฝั่งเอเชียก็ออกมาในแง่บวกเช่นกัน โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก Caixin ได้ออกมาสูงขึ้นเป็น 52.8 จากเดือนที่แล้ว 51.2 ซึ่งเป็นค่าดัชนีที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2011

5. ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงช่วยให้ราคาทองคำและผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ มีความเคลื่อนไหวในเดือนกรกฎาคมที่ย่ำแย่และทรุดตัวลงรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสามปี

ซึ่งการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐได้ทำให้ ราคาทองคำ พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 9% ในเดือนกรกฎาคมสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องด้วยปัจจัยบวกจากต้นทุนการถือครองทองคำที่ลดลงและปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมือง

ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐก็ปรับตัวขึ้นอย่างสดใส หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรัฐบาลสหรัฐแบบอายุห้าปีลดลงฉับพลันเนื่องจากเฟดได้ออกมาแสดงจุดยืนทางนโยบายที่ผ่อนคลายเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจ

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย