Investing.com - สามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. คาดว่ายอดขายบ้านมือหนึ่งจะพลิกฟื้น และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะชะลอตัว
การรายงานยอดขายบ้านมือหนึ่งและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในวันนี้ จะช่วยให้ผู้ลงทุนได้ทราบถึงเบื้องลึกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ดียิ่งขึ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะรายงานยอดขายบ้านมือหนึ่งประจำเดือนพฤษภาคมในเวลา 10:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (14:00 GMT)
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ที่รวบรวมโดย Investing.com กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ยอดขาย น่าจะขยับขึ้น 2.2% และมี อัตราการเติบโตรายปี หลังปรับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลออกแล้วในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 686,000 หลัง จากเมื่อเดือนเมษายน 673,000 หลัง โดยยอดขายบ้านมือหนึ่งได้วนเวียนอยู่ใกล้ระดับ 700,000 หลังมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว และยังต่ำกว่าอัตราการขายบ้าน 1 ล้านหลังที่เคยเกิดขึ้นก่อนวิกฤตการณ์ทางการเงินเมื่อปี 2008 ถึง 2009 อยู่ 30%
และคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือนมิถุนายนจะลดลงจาก 134 เหลือ 132 ยังคงมีการคาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะชะลอตัวแม้ว่ารายงานตัวเลขยอดค้าปลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะออกมาดีเกินคาดก็ตาม
2. จับตานายเพาเวลล์
ช่วงเวลานี้ที่มีกระแสความคาดหวังสูงมากว่าเฟดจะต้องลดอัตราดอกเบี้ย อย่างเร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคม คำกล่าวจากประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ที่จะมาแสดงทัศนะต่อนโยบายทางการเงินและภาพรวมทางเศรษฐกิจจะเป็นที่น่าจับตาเป็นพิเศษในวันนี้
นายเพาเวลล์จะให้คำกล่าวที่สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ค ในเวลา 13:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (17:00 GMT) ของวันนี้
อย่างไรก็ดี ตลาดส่วนใหญ่กลับไม่ได้คาดหวังให้นายเพาเวลล์บอกใบ้อะไรเพิ่มเติมด้านนโยบายทางการเงิน หลังจากการแถลงข่าวของเขาเมื่อไม่ถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนายเพาเวลล์ได้ชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยินดีพิจารณาการใช้นโยบายแบบผ่อนคลายเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ
3. Micron และ FedEx เตรียมประกาศผลประกอบการ
Micron Technology (NASDAQ:MU) และ FedEx เตรียมประกาศผลประกอบการในวันนี้หลังเวลาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิด
โดยก่อนหน้าที่จะมีการประกาศผลประกอบการของ Micron นักวิเคราะห์หลายท่านได้ลดระดับภาพรวมของบริษัท ด้วยความหวาดหวั่นถึงผลกระทบจากการแซงก์ชันบริษัท Huawei ที่มีส่วนเกี่ยวข้องถึง 13% ต่อรายได้ทั้งหมดของบริษัท และอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทที่เดิมทีก็ชะลอตัวลงจากอุปสงค์ชิพความจำที่ลดลงอยู่แล้ว
ทางด้าน FedEx (NYSE:FDX) ก็มีภาพรวมที่ไม่น่าพอใจนักก่อนการรายงานผลประกอบการ บริษัทได้ลดตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และล่าสุดก็มีการลดตัวเลขอีกครั้งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
คาดว่า FedEx จะมีผลกำไร $4.85 ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ 1.78 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ