รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ประเด็นหลักที่น่าจับตาประจำวันนี้ (28 มิ.ย.)

เผยแพร่ 28/06/2562 01:54
อัพเดท 28/06/2562 04:27
© Reuters.

Investing.com - สามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้

1. ตัวเลขรายจ่ายผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้บริโภคจะเพิ่มความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่

รายจ่ายผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้บริโภคที่มีกำหนดการรายงานในวันนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ ท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อาจเกิดขึ้นในที่ประชุมเดือนกรกฎาคมนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคมปี 2008

คาดว่า รายรับส่วนบุคคล ประจำเดือนพฤษภาคมจะชะลอตัวลง 0.3% จากเมื่อเดือนที่แล้ว 0.5% ส่วน รายจ่ายส่วนบุคคล คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

ดัชนีราคาผู้บริโภค (PCE) เบื้องต้น ที่ไม่รวมราคาด้านอาหารและพลังงาน ซึ่งเป็นข้อมูลชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดชอบอ้างอิง คาดว่าในเดือนพฤษภาคมจะขยับขึ้น 0.2% แต่อัตราการเติบโตรายปียังคงอยู่ที่ 1.6%

สถานการณ์การเจรจาทางการค้าก็จะเป็นที่น่าจับตาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง ที่มีกำหนดการพบกันในวันเสาร์ โดยในวันนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ก็จะนัดพบกับประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิมีร์ ปูติน ด้วยเช่นกัน

2. รอรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน

ตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันจาก Baker Hughes ประจำสัปดาห์นี้จะเผยให้ผู้ลงทุนทราบถึงภาพรวมของกำลังการผลิตน้ำมันที่ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในประวัติการณ์

ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ของสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นมา 1 แท่น รวมทั้งหมดเป็น 789 แท่น

ถึงแม้ว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะอยู่ใกล้ระดับสูงสุดแล้วก็ตาม แต่สำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ กลับรายงานเมื่อวันพุธว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์ที่แล้วลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันขึ้นมาราว 3% ในสัปดาห์นี้

นอกจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในประเทศที่ลดลงแล้ว สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ก็ยังมีส่วนช่วยหนุนราคาน้ำมันให้ไต่ขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ เมื่อวานนี้ปิดสูงขึ้น 0.1% ที่ $59.43 ต่อบาร์เรล

3. Constellation Brands เตรียมประกาศผลประกอบการ

Constellation Brands (NYSE:STZ) จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกในวันนี้ก่อนเวลาตลาดเปิด

จากผลคาดการณ์ที่รวบรวมมาโดย Investing.com คาดว่า Constellation Brands จะรายงาน ผลกำไร ที่ $2.09 ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ราว 2.06 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ตัวเลขคาดการณ์รายได้ของบริษัทก็จะเป็นที่จับตาเช่นกัน เนื่องจากผู้ลงทุนต่างก็ต้องการทราบภาพรวมของบริษัทในขณะนี้ท่ามกลางช่วงเวลาที่อุปสงค์การซื้อเบียร์ลดลง

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย