รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ประเด็นหลักที่น่าจับตาประจำวันนี้ (2 ก.ค.)

เผยแพร่ 02/07/2562 03:04
อัพเดท 02/07/2562 04:35
© Reuters.

© Reuters.

Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้

1. สมาชิกเฟดให้คำกล่าว, รอประกาศยอดขายยานยนต์สหรัฐฯ

ประธานเฟดจากนิวยอร์ค นายจอห์น วิลเลียมส์ มีกำหนดการเข้าร่วมการอภิปรายแบบหมู่คณะที่จัดขึ้นโดย UBS ณ กรุงซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ประธานเฟดจากคลีฟแลนด์ นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ จะให้คำกล่าวเกี่ยวกับภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ศูนย์ทางเศรษฐกิจและการเงินยุโรป ณ กรุงลอนดอน ในเวลา 6:35 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (10:35 GMT) และจะมีการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมถามคำถามด้วย

หุ้นกลุ่มยานยนต์ก็เป็นที่น่าสนใจ เนื่องจากจะมีการรายงาน ยอดขายยานยนต์สหรัฐฯ สุทธิ ในเวลา 8:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก

ผลคาดการณ์ยอดขายยานยนต์สุทธิสำหรับเดือนมิถุนายนนั้นมีอัตราการขายรายปีเท่ากับ 17 ล้านคัน จากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ยอดขายออกมาสูงกว่าคาดการณ์ราว 17.3 ล้านคัน

2. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง

ตลาดน้ำมันเตรียมรอ รายงานปริมาณน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา ในวันนี้เพื่อดูว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในประเทศสหรัฐฯ จะลดลงเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันหรือไม

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI มีราคาปิดที่ $59.09 ต่อบาร์เรล ปรับตัวขึ้นมา 1.1% เมื่อมีรายงานว่ากลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรตกลงที่จะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก รวมถึงแรงกระตุ้นจากการสงบศึกระหว่างสหรัฐฯ-จีนอีกด้วย

มีรายงานข่าวระบุว่าประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิมีร์ ปูติน ได้ตกลงกับซาอุดิอาระเบียแล้วว่าจะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงฉบับปัจจุบันไปอีกประมาณหกถึงเก้าเดือน

เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Oanda ให้ความเห็นไว้ว่า “การประชุม G20 ครั้งนี้มอบผลลัพธ์ในแง่บวกถึงสองประการ คือสองผู้นำทางเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของโลกกลับมาเจรจากันต่อ และประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิมีร์ ปูติน ได้ให้ไฟเขียวกับซาอุฯ ในการลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปอีกหกถึงเก้าเดือน"

3. Acuity Brands เตรียมรายงานผลประกอบการ

Acuity Brands (NYSE:AYI) เตรียมรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สามก่อนเวลาตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดในวันนี้

คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะแสดงให้เห็นถึงแวดวงผู้ผลิตสินค้าด้านไฟฟ้าแสงสว่างที่ซบเซาในภูมิภาคอเมริกาทางตอนเหนือ อีกทั้งความต้องการซื้อสินค้าด้านไฟฟ้าแสงสว่างที่ลดลงและแรงกดดันด้านราคาจากอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย

อ้างอิงจากผลคาดการณ์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า Acuity จะ ทำกำไร ได้ $2.42 ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ 971.45 ล้านเหรียญสหรัฐ

ความคิดเห็นล่าสุด

thank you
halo
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย