Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลตลาดแรงงานและการให้คำกล่าวของสมาชิกเฟด
กรมแรงงานสหรัฐฯ จะประกาศ รายงาน JOLTs ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ในเวลา 10:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (14:00 GMT)
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ที่รวบรวมโดย Investing.com นักเศรษฐศาสตร์ต่างก็คาดว่าตำแหน่งงานเปิดใหม่ในเดือนพฤษภาคมจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.47 ล้านตำแหน่ง จากเดือนก่อนหน้านี้ที่ 7.45 ล้านตำแหน่ง
ก่อนหน้าที่ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ จะให้คำแถลงเป็นเวลาสองวันเริ่มตั้งแต่วันพุธนี้ จะมีสมาชิกเฟดออกมาให้คำกล่าวในวันนี้ ซึ่งผู้ลงทุนต่างก็ต้องการทราบคำใบ้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายทางการเงิน ท่ามกลางความคาดหวังที่เลือนลางต่อการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในเดือนนี้
ประธานเฟดประจำเซนต์หลุยส์ นายเจมส์ บุลลาร์ด มีกำหนดการให้คำแถลงในเวลา 10:10 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ตามมาด้วยประธานเฟดประจำแอตแลนตา นายราฟาเอล บอสติก และรองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา นายแรนดัล ควอร์เลส ในเวลาบ่ายสองโมงตรงตามเวลามาตรฐานตะวันออก ซึ่งในการประชุมเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานายบุลลาร์ดเป็นผู้ออกมาแสดงความต้องการให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย
2. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง
ปริมานน้ำมันดิบคงคลังของสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา มีกำหนดการประกาศในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ อันจะนำไปสู่อุปทานน้ำมันที่คงค้าง
นักวิเคราะห์จาก Simmons Energy ให้ความเห็นไว้ว่า "ภาพรวมของตลาดน้ำมันยังคงน่าสับสน เนื่องจากมีทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อุปสงค์น้ำมันโลกที่เบาบาง ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการค้า อีกทั้งกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศภายนอกกลุ่มโอเปกที่ได้รับผลกระทบจากความกดดันทางการเมือง และการคุ้มครองกลุ่มโอเปก+ อีกด้วย"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาได้รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดก่อนวันที่ 28 มิถุนายน มีปริมาณเพิ่มขึ้นมา 5 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันปิดบวก 0.3% เท่ากับ $57.66 ต่อบาร์เรล
3. PepsiCo (NASDAQ:PEP) เตรียมรายงานผลประกอบการ
PepsiCo (NASDAQ:PEP) เตรียมรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองก่อนเวลาตลาดเปิดในวันนี้
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่าบริษัทผู้ผลิตขนมและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่จะ ทำกำไร ได้ที่ $1.50 ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ 1.643 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ธุรกิจการผลิตขนมของบริษัทซึ่งทำรายได้ให้กับบริษัทได้ถึงหนึ่งในสี่จากรายได้ทั้งหมด และคาดว่าไตรมาสนี้จะนำกำไรมาสู่บริษัทได้อีกครั้ง แต่ความอ่อนแอจาก Quaker Foods North American ของบริษัทดูเหมือนว่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ยังคงกดดันการเติบโตของบริษัท
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน หุ้นของ PepsiCo บวกขึ้นมาแล้วถึง 19% และพุ่งขึ้นถึง 23% ในช่วงระยะเวลา 52 สัปดาห์