3 ประเด็นหลักที่น่าจับตาประจำวันนี้ (21 ส.ค.)

Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้

1. รายงานการประชุมเฟด, ตัวเลขภาคอสังหาฯ

เฟดจะเผยแพร่ รายงานการประชุม ประจำเดือนกรกฎาคมในเวลาบ่ายสอง ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (18:00 GMT)

เนื่องจากตลาดมีความคาดหวังอย่างมากว่าเฟดจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อถึงการประชุมครั้งหน้าในเดือนหน้า ฉะนั้นรายงานการประชุมจึงเป็นข้อมูลสำคัญที่จะแสดงให้เห็นถึงทัศนะเชิงลึกของเฟดว่าจะสนับสนุนนโยบายแบบผ่อนคลายมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะหากเสียงของคณะสมาชิกเฟดไม่เป็นเอกฉันท์

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

ทรัมป์เผยว่า เฟดควรลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 100 จุดและควรใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ "บางส่วน" เสริมเข้าไปอีก

สมาคมนายหน้าค้าอสังหาฯ สหรัฐฯ จะรายงานยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนกรกฎาคมในเวลา 10 โมงตรง ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (14:00 GMT)

จากผลคาดการณ์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า ยอดขายบ้านมือสอง ประจำเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้น 2.5% จากเดือนมิถุนายน เท่ากับ 5.39 ล้านหลัง

2. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง

สำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) จะรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์ในวันนี้

ก่อนหน้าการรายงานตัวเลขจาก EIA สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาได้ประกาศปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสัปดาห์ที่แล้วลดลงไป 3.5 ล้านบาร์เรล

คาดว่าตัวเลขของ EIA จะแสดงปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ลดลงไป 1.889 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งหลายสัปดาห์มานี้ตัวเลขมักออกมาผิดคาด จากที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดไว้ว่าปริมาณน้ำมันดิบจะปรับลงแต่ตัวเลขจริงกลับปรับขึ้นมาสองสัปดาห์ติดกันแล้ว

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า ปรับขึ้น 0.2% ยืนอยู่ที่ $56.34 ต่อบาร์เรล

3. Lowe's และ Target) เตรียมรายงานผลประกอบการ

Lowe’s Companies (NYSE:LOW) จะรายงานผลประกอบการก่อนเวลาเปิดตลาดในวันนี้ หนึ่งวันให้หลังจากที่บริษัทคู่แข่ง Home Depot (NYSE:HD) ได้รายงาน ผลประกอบการที่ดีเกินคาด เมื่อวานนี้ แต่กลับลดตัวเลขคาดการณ์ท่ามกลางแรงกดดันจากราคาไม้แปรรูปที่ลดลง

คาดว่า Lowe's จะรายงาน ผลกำไร ที่ $2.01 ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ 2.095 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ทางด้าน Target (NYSE:TGT) ก็คาดว่าจะ ทำกำไร ได้ที่ $1.62 ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ 1.83 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากผลประกอบการและตัวเลขคาดการณ์แล้ว ข้อคิดเห็นต่อการตัดสินใจของทรัมป์ในการเลื่อนเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าปลีก อาทิ ของเล่นและเสื้อผ้า ออกไปเป็นวันที่ 15 ธันวาคม จากเดิม 1 กันยายน ก็จะเป็นที่น่าจับตาด้วยเช่นกัน