Investing.com - หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นตามรอยตลาดหุ้นทั่วโลกและพลิกฟื้นขึ้นมาจากขาลงเมื่อวานนี้
ขาขึ้นเมื่อคืนนี้มีสาเหตุมาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้น อีกทั้งข่าวการตัดสินใจของรัฐบาลจีนและฮ่องกงที่จะถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน และขาขึ้นในหุ้นกลุ่มพลังงานก็มีส่วนช่วยส่งแรงหนุนให้กับตลาดโดยรวมด้วย
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพที่นำทัพโดย Micron Technology (NASDAQ:MU) และ Intel (NASDAQ:INTC) ต่างก็ทะยานขึ้น และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดประจำเดือนสิงหาคมก็บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมยังสามารถรับมือกับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนได้
ดัชนี S&P 500 บวกขึ้น 1.1% ดัชนี Nasdaq Composite ปรับขึ้น 1.3% และดัชนี อุตสาหกรรม Dow Jones ขยับขึ้น 0.91% ขาขึ้นของทั้ง S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็สูงกว่าขาลงเมื่อวานนี้ โดยดัชนี Dow บวกขึ้นมาถึง 238 จุด เด้งกลับขึ้นมา 83.6% จากที่ดิ่งลงไป 285 จุดเมื่อวันอังคาร
ข่าวทางการเมืองจากสหราชอาณาจักร รวมทั้งข่าวการลงคะแนนเสียงในสภาเพื่อเลื่อนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปออกไปจนกว่าจะมีข้อตกลง กลับไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เท่าไรนัก โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาสองวันที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน พ่ายแพ้ในการลงคะแนนเสียง แต่คู่ GBP/USD กลับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้ว่าราคาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจะปรับขึ้น แต่ราคาทองคำกลับขยับขึ้นตามไปด้วย สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า มีราคาปิดที่ $1,560.40 ต่อออนซ์ในนิวยอร์ก ซึ่งในปีนี้ราคาทองคำได้บวกขึ้นมากว่า 21% แล้ว ส่วนราคาน้ำมันก็พุ่งขึ้นเช่นกัน