Investing.com - หุ้นสหรัฐฯ พลิกฟื้นจากขาลงเมื่อก่อนปิดตลาดในคืนวันพุธและการเทขายเมื่อช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ หลังจากเฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สอง
ดัชนี S&P 500 มีราคาปิดที่ค่อนข้างซบเซา ยังคงยืนอยู่เหนือระดับ 3,000 ได้เป็นวันที่สองติดต่อกัน และเป็นวันที่ห้าในรอบหกวันที่ผ่านมา โดยดัชนีได้ดิ่งลงไปมากสุดถึง 28 จุดหลังจากการประกาศของเฟด
ดัชนี อุตสาหกรรม Dow Jones ที่เคยดิ่งลงไปหนักสุดถึง 211 จุด มีราคาปิดที่บวกขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ที่ 0.13% ดัชนี Nasdaq Composite ปิดลบ 0.11% ถือเป็นความคืบหน้าครั้งใหญ่จากที่่ติดลบลงไปถึง 100 จุดหลังการประกาศผลการประชุมเฟด ส่วนดัชนี Nasdaq 100 ที่ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่กลับค่อนข้างนิ่ง
เฟดได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย อยู่ที่ระหว่าง 1.75% ถึง 2% จาก 2% ถึง 2.25% ซึ่งถือเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สองแล้วในปีนี้ โดยมีสมาชิกเฟดสองท่านที่ลงคะแนนเสียงไม่เห็นด้วยกับการลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนสมาชิกที่เหลือกลับต้องการให้ลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้ ถึงแม้มีแนวโน้มว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ แต่มีสมาชิกเฟดอย่างน้อยห้าคนที่เชื่อว่าอาจไม่จำเป็นต้องมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตว่า เฟดน่าผิดหวังและไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ยให้มากพอ เนื่องจากทั้งความไม่ลงรอยทางการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกต่างก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะนี้โดยเฉพาะภาคธุรกิจ
แต่ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ก็ได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจของเฟด และเผยว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อถึงคราจำเป็นเท่านั้น จะไม่ลดก่อนที่ควรจะลด และแม้ว่าเศรษฐกิจจะส่งสัญญาณอ่อนแอบ้างเล็กน้อย แต่เพาเวลล์ก็ได้เผยไว้ในการแถลงข่าวของเขาแล้วว่า "พวกเราไม่เห็นถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย พวกเราไม่ได้ต้องการคาดการณ์การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย"