ผลวิจัยและนักออกแบบแผนการลงทุนส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าการกระจายความเสี่ยงซึ่งเป็นพื้นฐานการลงทุนสามารถลดความเสี่ยงลงโดยที่ไม่ลดผลกำไรที่นักลงทุนคนนั้นๆ ควรจะได้รับ หากพูดภาษาชาวบ้านง่ายๆ ก็คือการกระจายความเสี่ยงคือการไม่นำของมีค่าทั้งหมดไปรวมเอาไว้ในที่เดียวกัน โดยปกติแล้วบทความนี้จะเป็นบทความแนะนำกองทุน ETF ที่อาจช่วยให้คุณพบกองทุนน่าสนใจในการลดความเสี่ยงจากการลงทุนลงได้
1. Breakwave Dry Bulk Shipping ETF
ระดับราคาปัจจุบัน: $16.50
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $3.75 - $20.84
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 3.32% ต่อปี
กองทุน ETF ที่มีชื่อว่า Breakwave Dry Bulk Shipping (NYSE:BDRY)เป็นกองทุนที่ลงทุนกับหุ้นของบริษัทที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการซื้อขายสินค่าเทกอง (Bulk Cargo) ในรูปแบบของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สินค้าประเภทนี้จะไม่สามารถจัดเก็บเป็นหีบห่อได้ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าแห้ง (Dry Bulk) และสินค้าเหลว (Liquid Bulk) แต่กองทุนนี้เน้นเฉพาะการซื้อขายสินค้าแห้งที่ผลิตภัณฑ์ที่ใกล้จะหมดอายุแล้วเท่านั้น (3 เดือนโดยประมาณ)
โดยปกติแล้วการขนส่งสินค้าแห้งจะมีวิธีขนส่งกันอยู่ 3 รูปแบบหลักๆ
- Capesize (ขนาด 150,000-400,000 DWT) ส่วนใหญ่ขนสินค้าประเภทถ่านหิน เหล็ก ต้องใช้กับท่าเรือน้ำลึก
- Panamax (ขนาด 65,000 DWT) ตามชื่อคือใช้ขนส่งสินค้าผ่านคลองปานามา เรือจะมีลักษณะพิเศษคือแคบ ใช้ขนส่งสินค้าพวกถ่านหิน น้ำมันดิบ ปิโตรเลียม ไปในทะเลคาริเบียนและลาตินอเมริกา
- Supramax (ขนาด 50,000 - 60,000 DWT) เป็นเรือขนส่งสินค้าขนาดเล็ก บรรทุกน้ำหนัก
กองทุน BDRY ได้แบ่งสัดส่วนการลงทุนออกตามรูปแบบการขนส่งสินค้า พวกเขาลงทุนในสัญญาซื้อขาย Capesize ล่วงหน้า 50% ลงทุนกับสัญญา Panamax 40% และลงทุนกับสัญญา Supramax 10% BDRY เริ่มก่อตั้งกองทุนมาในเดือนมีนาคมปี 2018 มีการปรับสมดุลของเงินลงทุนในกองทุนทุกๆ ต้นเดือนธันวาคม มีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการประมาณ $50.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
วิกฤตคลองสุเอซที่กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าหลายๆ ประเภทรวมถึงน้ำมันดิบ แร่เหล็ก ถ่านหินและสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ การกีดขวางเส้นทางลำเลียงขนส่งที่สำคัญของเรือ Ever Given ทำให้กราฟของ BDRY ปรับตัวขึ้นมากกว่า 10% เมื่อปีที่แล้วกองทุนนี้สามารถทำผลกำไรคืนให้กับนักลงทุนได้มากถึง 240% และพึ่งสร้างจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง
แต่ก็อย่างที่ทราบในปัจจุบันว่าเหตุการณ์เรือขวางคลองสุเอซได้จบลงแล้ว ดังนั้นอีกไม่นานเราอาจจะได้เห็นกราฟของกองทุนนี้ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อทำกำไร และเพราะกองทุนตัวนี้เป็นกองทุนเฉพาะกลุ่มจึงทำให้อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงานของกองทุนนี้จึงสูงกว่าปกติ ดังนั้นนักลงทุนที่คิดจะลงทุนกับ BDRY ควรจะมีความรู้ความเข้าใจรูปแบบการดำเนินการของอุตสาหกรรมเดินเรือและต้องมั่นใจว่าปัจจัยหนุนของ Dry Bulk จะคงอยู่ไปตลอดทั้งปี
2. Emles Luxury Goods ETF
ระดับราคาปัจจุบัน: $28.21
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $24.92 - $29.05
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.60% ต่อปี
กองทุน ETF นาม Emles Luxury Goods (NYSE:LUXE) เป็นกองทุนที่ถือหุ้นของบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการขายสินค้าฟุ่มเฟือย กองทุน LUXE ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 มีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการประมาณ $2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยจะเติบโตขึ้นจาก $257,260 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 ขึ้นเป็น $352,840 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยแบบทบต้น (CAGR) ในระหว่างปี 2020-2027 อยู่ที่ 4.6% 
งานวิจัยระบุว่าลูกค้าหลักๆ ของธุรกิจประเภทนี้มีสองกลุ่มหลักๆ ด้วยกัน กลุ่มแรกคือกลุ่มลูกค้าประเภท คนชนชั้นกลางที่มีรายได้และกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ยังไม่มีรายได้แต่พ่อแม่มีเงิน ดังนั้นบริษัทเหล่านี้จำเป็นต้องรักษาความไฮคลาสของแบรนด์เอาไว้เพื่อรักษาลูกค้าทั้งสองกลุ่มเอาไว้ด้วย
ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2021 กองทุนนี้เติบโตขึ้นมาแล้ว 3.5% และปัจจุบันกองทุนนี้ถือหุ้นของบริษัทชื่อดังอยู่ 47 หุ้น อาทิเช่นหุ้นของบริษัท Volkswagen (OTC:VWAGY), Daimler (OTC:DDAIF), Apple (NASDAQ:AAPL), Diageo (NYSE:DEO) และ Estee Lauder (NYSE:EL)