🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

SET INDEX ยังคงอยู่ในกรอบแคบ ๆ 

เผยแพร่ 12/12/2566 09:44
SETI
-

ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้ ดูยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีน้้าหนักในการขับเคลื่อน ตลาด ประเด็นหลักยังอยู่ที่การคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ย โดยในสหรัฐฯ คาด ดอกเบี้ยอาจคงที่เพดาน 5.5%และเริ่มลดลงในช่วงเดือน พ.ค.67 เปลี่ยนจากเดิม ที่คาดว่าจะลดลงในเดือน มี.ค.67 ซึ่งเป็นผลมาจากการประกาศตัวเลขภาค แรงงานที่แข็งแกร่งกว่าคาด ส่วนในบ้านเราปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ไตรภาคี ได้ข้อยุติเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่้า โดยปรับขึ้น 2 –16 บาท จังหวัดที่ ค่าแรงขั้นต่้าสูงสุดคือ ภูเก็ต 370 บาท ซึ่งยังคงเป็นระดับที่ต่้ากว่านโยบายที่ พรรคเพื่อไทย ได้หาเสียงไว้ ล้าดับต่อไปจะน้าผลสรุปดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา ของ ครม. เบื้องต้นประเมินว่ามีโอกาสที่จะตีกลับไปให้พิจารณาใหม่ อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่้าดังกล่าวไม่น่าจะมีผลต่อประมาณการก้าไรบริษัทจด ทะเบียน คาด SET INDEX ผันผวนในกรอบแคบ ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบาง

ภาวะที่มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ปกติก็เป็นเรื่องยากที่จะท้าให้SET INDEX ขยับ ขึ้น และเมื่อรวมกับการที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาขับเคลื่อบ น่าจะท้าให้SET INDEX อยู่ในกรอบ 1370 –1387 จุด หุ้น TOP PICK เลือก CRC, PTTEP และ TISCO

ลุ้นธนาคารกลางพร้อมใจจบรอบวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นปีนี้

ภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายและอยู่ในระดับต่้า ช่วยหนุนให้ธนาคาร กลางทั่วโลกหันมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น

เริ่มจากสหรัฐฯ ที่เงินเฟ้อเดือน ต.ค. อยู่ที่ 3.2%YOY ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายเพียง เล็กน้อยที่ 2% เป็นปัจจัยหนุนให้ FED หยุดขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม มีโอกาส สูงขึ้นที่อาจเห็น FED ยืดเวลาการตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.5% ไปอีกราว 2 เดือน จากเดิม คาด มี.ค. 67 ขยับเป็น พ.ค. 67 หลังมีรายงานตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ล่าสุดใน เดือน พ.ย. ค่อนข้างแข็งแกร่ง และอาจเป็นแรงกระตุ้นเงินเฟ้อได้อาทิ

ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 199,000 ต้าแหน่ง สูงกว่าตลาดคาดและเดือนก่อนที่ 180,000 ต้าแหน่ง และ 150,000 ต้าแหน่ง ตามล้าดับ

อัตราการว่างงงานสหรัฐฯ เดือน พ.ย อยู่ที่ 3.7% ซึ่งต่้ากว่าตลาดคาดและ เดือนก่อนที่ 3.9%

ขณะที่จีน ยังเผชิญกับความเสี่ยงเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด และเห็นสัญญาณเงินฝืด รุนแรงขึ้น โดยล่าสุดดัชนี CPI จีน เดือน พ.ย. -0.5%YOY หดตัวสูงกว่าตลาดคาดและ เดือนก่อนที่ -0.2%YOY จากแรงกดดันของสินค้ากลุ่มอาหาร ขณะที่ดัชนี PPI จีน เดือน พ.ย. -3.0%YOY ซึ่งปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เชื่อ ว่าจะยังช่วยหนุนให้ PBOC ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจจีนให้ฟื้นตัว

นอกจากนี้ในฝั่งยุโรปอาจเห็นการคงดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 14 ธ.ค. นี้เช่นกัน โดย CONSENSUS คาดว่า ECB จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% ต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน ก.ย. ส่วน BOE จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่5.5% ต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน ส.ค.

สรุป เงินเฟ้อที่ชะลอตัวเป็นแรงกระตุ้นให้ธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก จบรอบวัฏจักร ดอกเบี้ยขาขึ้นในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมาก ขึ้นในระยะถัดไปได้

นโยบายทั้งการเงิน และ การคลัง ล้วนหนุนให้ประเทศไทยดูดีใน ระยะถัดไป

ตั้งแต่สิ้นเดือน ต.ค. จนถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงทุกช่วง อายุ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • ตราสารหนี้อายุ 1 ปี ปรับตัวลง 6 BPS. ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.37%

  • ตราสารหนี้อายุ 2 ปี ปรับตัวลง 15 BPS. ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.40%

  • ตราสารหนี้อายุ 5 ปี ปรับตัวลง 35 BPS. ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.52%

  • ตราสารหนี้อายุ 10 ปี ปรับตัวลง 37 BPS. ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.87%

ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก นักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิพันธบัตรรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา(ต.ค.66 ซื้อสุทธิ 1.2 หมื่นล้านบาท / พ.ย.66 ซื้อสุทธิ 1.0 หมื่นล้านบาท) ซึ่งประเด็นดังกล่าว อาจส่งผลให้ กนง.เริ่มใช้นโยบายทางการเงินแบบ ผ่อนคลายเร็วขึ้น แม้กนง.จะให้ความเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันที่ 2.50% อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพใน ระยะยาว

ดังนั้น หาก กนง.หนุนการลดดอกเบี้ยให้เกิดเร็วขึ้นกว่าที่คาด ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินตาม กลไกดอกเบี้ยที่ลดลง 25 BPS. (จาก 2.50% เป็น 2.25%) มีโอกาสที่จะเป็นแรงผลัก ให้TARGET SET INDEX ปรับตัวสูงขึ้นอีก 78 จุด จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 1717 จุด ส่วนหุ้นกลุ่มที่คาดว่าได้ประโยชน์ คือ กลุ่มเช่าซื้อ THANI, MTC, TIDLOR, SAWAD, ASK, AEONTS, BAM, JMT กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก KKP, TISCO กลุ่มให้ ปันผลสูง (HIGH YIELD) NER, ADVANC, SCC, TU, MAJOR

  • ขณะที่ในมุมของนโยบายการคลังยังเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ประเด็นที่จะเข้าการประชุม ครม. วันนี้คือ

  • ขอความเห็นชอบและให้ไฟเขียว ในการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่้า ปี 2567 เพิ่มขึ้นอัตราวันละ 2-16 บาท เฉลี่ย 2.37% สูงสุด 370 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567

  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เตรียมเสนอ ครม. ตีกลับขึ้นค่าแรงขั้นต่้า 2567 - ศึกษาใหม่ เล็ง ถามกฤษฎีกา แก้กฎหมาย เตรียมหารือบอร์ดไตรภาคีนอกรอบขยับเพิ่ม

  • กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอ ครม. ให้อนุมัติตรึงค่าไฟฟ้าที่อัตรา 3.99 บาท/หน่วย ส้าหรับกลุ่มเปราะบาง และตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อไปอีก 3 เดือน

  • กระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอมาตรการพักหนี้เพิ่มเติม ในกลุ่ม SME รหัส 21 กว่า 6 หมื่นคน พร้อมปลดล็อก NPL สินเชื่อฉุกเฉินโควิด

ซึ่งกลุ่มหุ้นหลักที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว คือ กลุ่ม COMM FOOD ที่ระยะถัดไปยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทั้ง EASY ERECEIPT และ DIGITAL WALLET คาดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้โตเกิน 5%YOY และท้าให้ประชาชนมีก้าลังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วง 1H67 โดยหุ้นในกลุ่ม ดังกล่าว ที่ฝ่ายวิจัยฯ ชื่นชอบ คือ CPAXT, HMPRO, COM7, CRC, CPALL (BK:CPALL), OSP, CBG, SNNP, TU เป็นต้น

สรุป นโยบายการเงินที่มีท่าทีผ่อนคลายลง และนโยบายการคลังที่กระตุ้นเศรษฐกิจ เรื่อยๆ คาดหนุนให้ประเทศไทยดูดีในสายตาต่างชาติ และมีโอกาสให้ FLOW ต่างชาติ ไหลเข้าหุ้นไทยระยะถัดไป ส่วนหุ้นที่คาด OUTPERFORM จากประเด็นฯดังกล่าว และ ฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบ คือ CRC, CPALL, TU, TISCO, ADVANC, SCC

SET มูลค่าซื้อขายเบาบาง รอเม็ดเงิน ESG FUND เข้ามาเติม

เดือน ธ.ค. ในช่วงที่ผ่านมา SET INDEX มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่เบาบางมากเหลือ เพียง 3.76 หมื่นล้านบาทต่อวัน (คิดเป็น TURNOVER 54% ต่อปี) ต่้าสุดเมื่อเทียบกับ ทุกเดือนในปีนี้ และยังต่้ากว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีที่ 5.18 หมื่นล้านบาต่อวัน

ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ 5.0 พันล้านบาท (MTD) แต่ยังมีแรงสนับสนุนจากสถาบันนในประเทศที่ซื้อสุทธิทุกวัน มูลค่ารวม 3.4 พันล้านบาท (MTD)

ส่วนในช่วงที่เหลือของปีคาดหวัง เม็ดเงินจากกองทุน THAILAND ESG FUND เข้ามา พยุงตลาด หลังจากเปิดซื้อขายวันแรก 8 ธ.ค. 66 ส้าหรับหุ้นเด่นรับกระแสเงินจาก ESG FUND แนะน้า PTT (BK:PTT), PTTEP, BDMS, SCC, ADVANC, HMPRO, GULF, CPALL, CRC เป็นต้น

PM2.5 มาเร็ว!!! เก็งกำไรหุ้นการแพทย์

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง สภาพอากาศที่มีความกดอากาศสูง ความเร็วลม ต่้า อากาศไม่สามารถยกตัวได้รวมถึงการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้นจากกิจกรรม ทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5

ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเช้านี้ล่าสุด กรุงเทพมี คุณภาพอากาศ (AQI : AIR QUALITY INDEX) สูงสุดเป็นล้าดับที่11 ของโลก

และข้อมูลจาก ทางกรมควบคุมมลพิษคาดว่าฝุ่นในกรุงเทพฯ ยังสูงอยู่ตลอดสัปดาห์

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯ มองประเด็นดังกล่าวถือเป็นกระแสลบต่อหุ้นท่องเที่ยว และยังมีกลุ่มที่ ได้ SENTIMENT บวก คือ โรงพยาบาล BDMS, BH, BCH, CHG, ธุรกิจขายยา HL, MEGA และธุรกิจจัดจ้าหน่ายอุปกรณ์ช่วยป้องกันจัดการฝุ่นต่างๆ HMPRO

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย