🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

ผ่านฤดูกาล Earning มาด้วยความบอบช้ำ 

เผยแพร่ 01/03/2567 09:51

ถือว่า ฤดูกาลประกาศงบการเงินงวดปี 2566 สิ้นสุดลงซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพบว่า หลายบริษัทแสดงผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด นำมาซึ่งการปรับลดประมาณ การ และแรงกดดันต่อ SET Index ทั้งนี้ในส่วนของ Bloomberg Consensus ล่าสุดแสดง EPS ปี 2567 ไว้ที่ 95.3 บาท/หุ้น ลดลงจากช่วงปลายปี 2566 ซึ่ง แสดงตัวเลขราว 105 บาท/หุ้น สำหรับ ASPS Research อยู่ระหว่างการปรับลด โดยอาจเห็นตัวเลขจบที่บริเวณ 92-93 บาท/หุ้น ทั้งนี้จากนี้ไปเชื่อว่าอิทธิพลจาก การประกาศกำไรน่าจะเบาบางลง ส่วนประเด็นที่จะให้ความสนใจมากขึ้นน่าจะเป็น ทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งในส่วนของ Fed ชัดเจนมากขึ้นว่าจะเห็นการปรับลด ดอกเบี้ยในช่วง มิ.ย.67 ขณะที่บ้านเรา มีความคาดหวั้งว่าอาจเห็นการปรับลดใน การประชุม 10 เม.ย.67 อย่างไรก็ตามท่าที่ของผู้ว่า ธปท. ที่ให้สัมภาษณ์สื่อ ยัง เห็นว่าการลดดอกเบี้ยไม่น่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในสถานการณ์ปัจจุบัน

แรงกดดันจากตัวเลขกำไรที่ออกมาต่ำกว่าคาด น่าจะลดน้ำหนักลง ทำให้ระดับ ความผันผวนของ SET Index ลดลงไปด้วย วันนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว ช่วง 1367 –1382 จุด หุ้น Top Pick เลือก ADVANC, MAJOR และ PTTGC

Trend เงินเฟ้อชะลอลง กลางปีนี้คงเห็นการลดดอกเบี้ย

วานนี้มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่ออกมาทิศทาง เดียวกันในการสะท้อนภาคการบริโภคที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ไม่ว่าจะเป็น

• ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานล่าสุดอยู่ที่ 215,000 ตำแหน่ง มากกว่าตลาด คาดที่ 209,000 ตำแหน่งและเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 66 สะท้อน การว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะกดดันให้กำลังซื้อลดลง

• ดัชนีเงินเฟ้อ PCE เดือน ม.ค. +2.4%YoY ตามคาด ชะลอตัวลงจากเดือน ก่อนที่ +2.6%YoY ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการหนุนให้ Fed ลดดอกเบี้ย

• การบริโภคที่แท้จริงรายบุคคลเดือน ม.ค. -0.1%MoM หดตัวครั้งแรกใน รอบ 11 เดือน สะท้อนการจับจ่ายใช้สอยที่ลดลง

แรงกระตุ้นเงินเฟ้อลดลง เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ Fed พิจารณาเริ่มปรับ ลดดอเบี้ยในปี 2567 โดยผลการสำรวจของ Fed Watch Tool เผยโอกาสคงดอกเบี้ย ในเดือน พ.ค. 67 เพิ่มขึ้นเป็น 84%และให้น้ำหนักราว 60% ที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยใน การประชุมรอบเดือน มิ.ย. 67 นี้

สำหรับทิศทางดอกเบี้ยในบ้านเรา ผู้ว่า ธปท. มีมุมมองเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่ฟื้น ตัวอย่างช้าๆ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งการปรับ ลดดอกเบี้ยไม่ช่วยให้การบริโภคเพิ่มขึ้น และยังอาจสร้างแรงจูงใจให้หนี้ภาคครัวเรื่อง สูงขึ้นด้วย นอกจากนี้การปรับลดดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควร อาจเป็นการส่ง สัญญาณที่ผิดปกติ และอาจเป็นการแก้ปัญหาผิดจุด อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยฯ มอง ว่าน่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยในบ้านเราปีนี้อย่างน้อย 1 ครั้ง โดยการประชุม กนง. รอบต่อไปจะเกิดขึ้น ในวันที่ 10 เม.ย. นี้

ขณะที่ช่วงการเริ่มต้นลดดอกเบี้ย มักจะเป็นจุดเริ่มต้นการขึ้นรอบใหญ่ของ FIN เสมอ อาจจะหาโอกาสเข้าเก็งกำไร KTC, AEONTS, TIDLOR, MTC, SINGER ได้

สรุป อัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในสหรัฐ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการหนุน ให้ Fed เดินหน้าโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยในบ้าน เราน่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยในบ้านเราปีนี้อย่างน้อย 1 ครั้ง รอลุ้นการประชุม กนง. ในวันที่ 10 เม.ย. นี้

เปิดฟรีวีซ่า ไทย – จีน วันแรก ดีต่อหุ้นตัวไหนบ้าง

วันนี้เป็นวันแรกของการเปิด วีซ่า ไทย – จีน ถาวรวันแรก ช่วยจูงใจและอำนวยความ สะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยมากขึ้น หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายของ High season ท่องเที่ยวไทย จึงคาดหวังการฟื้นตัวเชิง YOY ของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงที่ เหลือของปี ขณะที่การสนับสนุนของภาครัฐในระยะยาว เพื่อพยายามผลักดันให้ไทย เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเซีย ซึ่ง AOT (BK:AOT) ในฐานะประตูสู่ประเทศไทย อีกทั้งการ เปิดอาคาร SAT-1 ช่วง ก.ย. 66 พร้อมรับเที่ยวบินที่มาเปลี่ยนเครื่องที่ไทยมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มกำไรปกติกลุ่มฯ ช่วง ม.ค. – มี.ค. 67 ของหุ้นที่อิงกับการท่องเที่ยวไทย มีโมเมนตัมที่ดีเชิง QoQ (ยกเว้น 1Q เป็น Low season ใน EU) แรงหนุนจากฤดูกาล ท่องเที่ยวไทย โดยตัวเลือกในกลุ่มฯ เรียงตามความชอบ ดังนี้ AOT (Outperform : FV@B74) > MINT (Neutral : FV@B35) จาก event ใหญ่อย่างฟุตบอลแห่งชาติยุโรป ที่เยอรมันและโอลิมปิกที่ปารีสช่วงกลางปี 2567 > ERW (Neutral : FV@B5.5) ราคา หุ้น YTD ปรับตัวขึ้นช้ากว่ากลุ่มฯ > CENTEL (Neutral : FV@B48) ที่ PER ซื้อขาย สูงสุดในกลุ่มโรงแรม / ROE ต่ำสุดในกลุ่มฯ และ Upside เทียบ FV ไม่สูง

กำไร4Q66 ออกมาแย่กว่าคาด กดดันประมาณการกำไรปี 2567

ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนทยอยรายงานกำไรงวด 4Q66 ออกมาแล้ว 391 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน 80% ของ MARKET CAP) อยู่ที่ 1.66 แสนล้านบาท (ลดลง -36.6%QOQ, +23.3%YOY) ซึ่งหากพิจารณาข้อมูลจาก BLOOMBERG CONSENSUS จะเห็นได้ว่ากำไร 4Q66 ที่ออกมานั้นต่ำกว่าที่คาดถึง 30%

กำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 4Q66 ที่ต่ำคาด จึงทำให้ EPS66 ล่าสุดอยู่ที่ 82.6 บาท/ หุ้น(เติบโตเพียง 1.3%YoY) ขณะที่ประมาณการ EPS67F ล่าสุดอยู่ที่ 93.0 บาท/หุ้น (เติบโต 12.6%YOY)

ด้วยประเด็นดังกล่าว จึงกดดัน SET ย่อตัว -15.2% ปีที่แล้ว และ -3.2%ytd ซึ่ง หลังจากนี้คาดว่าประเด็นนี้จะกดดัน SET Index น้อยลง เนื่องจากผ่านพ้นฤดูกาล ประกาศงบไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ประมาณการกำไรปี 2567 ก็ดูดีเติบโตสูงถึง 12.6%YoY

ขณะที่หากพิจารณาเป็นรายอุตสาหกรรม จะเห็นได้ว่ากลุ่มหุ้นที่มีกำไรเติบโตโดดเด่น กว่า SET คือ PETRO, TRANS, FOOD, PERSON, TOURISM, CONS, AGRI, COMM, ETRON, AUTO คาดจะเป็นตัวพยุง SET Index ให้ขยับขึ้น และราคาดัชนี สามารถ Outperform SET ได้นับจากนี้

สรุป กำไรบริษัทจดทะเบียน 2566 เพิ่มขึ้นเพียง +1.3% กดดันให้ดัชนี SET ปี 2566 ลดลง -15% และปี 2567(YTD) ลดลงอีก -1.5% จนต่ำกว่า 1400 จุด แต่ปี 2567 คาด กำไรมีโอกาสฟื้นกลับมาได้ 2 หลัก หนุนให้ SET INDEX น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวต่อได้ ฝ่าย วิจัยฯ ชื่นชอบหุ้นกลุ่มที่กำไรเติบโตเด่นกว่าตลาดฯ อาทิ PETRO, TRANS, FOOD, PERSON, TOURISM, CONS, AGRI, COMM, ETRON, AUTO

พายุเริ่มสงบ หวังตลาดหุ้นไทยเดือน มี.ค. ค่อยๆ ทยอยฟื้น

วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง -0.82% หรือ -11.38 จุด มาอยู่ที่ 1370 จุด ด้วยมูลค่า ซื้อขายที่สูงสุดของปีนี้ 7.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากกองทุนต่างประเทศปรับ พอร์ตตามดัชนี MSCI ส่งผลให้มูลค่าซื้อขายเข้ามาช่วง ATC เกินกว่า 2 หมื่นล้าน บาท รวมถึงมีการซื้อขายผ่าน Program Trading ที่สูงถึง 51.4% อีกทั้งยังเป็นช่วง โค้งสุดท้ายในการรายงานงบ 4Q66 ของบริษัทจดทะเบียน

ส่วนเดือน มี.ค. คาดพายุความผันผวนของ SET Index ค่อยๆสงบลง และน่าจะทยอย ฟื้นขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือน มี.ค. เพราะเป็นช่วงรอการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญใน เดือน เม.ย. 3 ส่วนหลักๆ คือ

• คาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินเร็วขึ้น สะท้อนได้จาก Bond Yield ไทยระยะ 1 ปี ถึง 5 ปี ลงมาต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ทั้งสิ้น

• คาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังเร็วขึ้น หลังจากครม. เร่ง เบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 เร็วขึ้น คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ และทำให้มีเม็ดเงิน ลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

• คาดหวังความเชื่อมั่นของนักลงทุน และปริมาณการซื้อขายค่อยกลับมา หลัง ทางการมีมาตรการที่ชัดเจน ในการกำกับดูแลตรวจสอบ SHORT SELLING และ PROGRAM TRADING รวมถึงอาจเพิ่มชั่วโมงซื้อขายจาก 4 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน เป็น 5 ชั่วโมงต่อวัน คาดเริ่มมีผลบังคับใช้ช่วง 2Q67 หนุน TURNOVER ของ SET มีโอกาสกลับมาสูงกว่า 70% ต่อปี

สรุป แม้จุอยู่ในช่วงทยอยปรับ EPS67F ลง ล่าสุดจะถูกปรับลงบริเวณ 92 ถึง 94 บาท/หุ้น กดดันตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ดัชนีปัจจุบันยังห่างจากกรอบดัชนี เป้าหมายปี 2567 ที่ 1580 – 1620 จุด พอสมควร แนะนำทยอยซื้อสะสมหุ้นไทยใน เดือน มี.ค. และ BUY AND HOLD เพื่อก้าวข้ามความผันผวนในช่วงสั้นๆ เลือกหุ้น 3 ธีม คือ หุ้นรับมาตการภาครัฐ AOT BDMS CPN SCCC หุ้นเตรียมรับวัฏจักร ดอกเบี้ยขาลง SPALI MTC หุ้นหวังเศรษฐกิจจีนฟื้น PTTGC

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย