InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 37.07 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 37.06 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.10 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทแกว่ง sideway เนื่องจากตลาดรอ ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในคืนวันพรุ่งนี้ ในขณะที่ฝั่งไทยตรงกับวันหยุด เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า FOMC จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ แต่ตลาดรอดูว่าจะส่ง สัญญาณว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยได้เมื่อไร และจะลดลงกี่ครั้งภายในปีนี้ นักบริหารเงิน คาดว่า เปิดทำการวันพฤหัส เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.90 - 37.25 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 37.0473 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 156.11 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 156.72 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0701 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0714 ดอลลาร์/ยูโร - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุเศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค. ชะลอตัวลงจากอุปสงส์ในประเทศและภาคการท่อง เที่ยว หลังจากที่เร่งตัวไปในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับปัจจัยที่เคยสนับสนุนกำลังซื้อผ่านมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-receipt ได้หมด ลง ส่วนการส่งออกปรับดีขึ้นในหลายหมวด อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้น - ธปท. เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยระยะต่อไป เติบโตได้จากแรงขับเคลื่อนสำคัญ คือ การท่องเที่ยว และการใช้จ่ยภาค รัฐ แต่ต้องติดตามผลของการเบิกจ่ายงบประมาณ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ, การฟื้นตัวของการส่งออก, การฟื้นตัวของ จำนวน-รายรับนักท่องเที่ยว และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ - ธปท. เผยเงินบาทตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน อ่อนค่าไป 7.8% และยอมรับว่าเงินบาทในไตรมาส 1 อ่อนค่านำสกุลเงินอื่น เพราะนอกจากจะมีสาเหตุจากนโยบายของเฟดแล้ว ยังมาจากเรื่องในประเทศด้วย คือ ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอกว่าคาด แต่นับ ตั้งแต่เม.ย. เงินบาทเริ่มเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มสกุลเงินอื่น เชื่อว่าตั้งแต่ครึ่งปีหลัง ปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าจะค่อยๆ ลดลง - กระทรวงการคลังญี่ปุ่น ระบุว่า มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการรับมือกับสถานการณ์ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน แต่ปฏิเสธ ที่จะแสดงความคิดเห็นว่าทางกระทรวงการคลัง ได้เข้าแทรกแซงตลาด เพื่อพยุงค่าเงินเยนเมื่อวานนี้หรือไม่ - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียสำหรับปี 2567 มาอยู่ที่ 4.5% เนื่องจากยังคงมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดีย และมุ่งความสนใจไปที่ความจำเป็นในการออกมาตรการ กระตุ้นมากขึ้นจากจีน - IMF ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเหลือ 2.7% โดยระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มอ่อนแอลง เนื่องจากแนว โน้มการใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังลดน้อยลง ส่วนในปี 2568 นั้น IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงเหลือ 2.9%