ทำไมยูโรถึงผ่านแนวต้าน 1.25 ไปได้ แม้ว่าจะมีการให้สัมภาษณ์ในแง่ลบจาก ECB

โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการกลยุทธ์ FX ที่ BK Asset Management

EUR/USD ผ่าน 1.25 แม้ว่าคำเตือนของนาย Draghi ประธานธนาคารกลางยุโรปเตือนว่าความผันผวนของยูโรทำให้เกิดความไม่แน่นอน ซึ่งระดับนี้เป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2014 ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการให้สัมภาษณ์โดย Draghi จะทำให้สกุลเงินอ่อนค่าลง ในขณะที่เงินยูโรยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ตามที่เราเขียนไว้ใน ECB preview เมื่อวาน เนื่องจากแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งค่าขึ้นในค่าเงิยยูโร การออกมาให้สัมภาษณ์ในแง่ลบอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะระงับสกุลเงินจากการแตะ 1.25 และนั่นคือสิ่งที่เราเห็นในวันพฤหัสบดีนี้ เงินยูโร / ดอลลาร์สหรัฐ ทะยานแตะระดับนี้ ในขณะที่ ECB นั้นพอใจกับสภาพเศรษฐกิจ นาย Draghi กล่าวว่าโมเมนตัมทางเศรษฐกิจยังดี ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การเจริญเติบโต และค่อยๆเพิ่มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในระยะปานกลาง แม้ว่าเขาจะกล่าวว่าไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาในรายงานการประชุม ECB แต่เน้นที่สภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สนับสนุนโดยการพุ่งขึ้นในสกุลเงินยูโร ในขณะที่ได้ผ่านแนวต้าน 1.25 จุดมาแล้ว SMA 1.2572 และแนวต้านถัดไปคือ 1.30

ดาวน์โหลดแอป

เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก

ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

นักลงทุนยังคงขายดอลล่าร์ในวันพฤหัสบดีเนื่องจากพวกเขามองว่าการที่ Mario Draghi มุ่งเน้นการเติบโต และให้ความสำคัญกับยูโรที่แข็งแกร่งลดลงมา เป็นสิ่งยืนยันในการเคลื่อนตัวในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน แม้ว่า ECB จะไม่ได้แสดงความสนใจในเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นมากนัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้กำหนดนโยบายในประเทศอื่นๆจะไม่กังวลความกังวลในสกุลเงินของพวกเขา ประธานธนาคารสวิส นาย Jordan กล่าวว่าพวกเขาพร้อมที่จะเข้าไปแทรกแซงตลาด FX ถ้าจำเป็น อย่างไรก็ตามแนวโน้มขาขึ้นยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสกุลเงิน AUD และ NZD ในขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจในสหรัฐฯยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ยอดการขายบ้านใหม่ลดลงเกินคาด และการขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น ส่วนตัวเลข GDP ในไตรมาสที่สี่จะได้รับการประกาศในวันศุกร์พร้อมกับตัวเลขดุลการค้า และคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ในส่วนของ GDP ไตรมาสที่ 4 นั้นเป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯในปฏิทินของสัปดาห์นี้ และจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขอาจชะลอตัวลงเนื่องจากกิจกรรมทางการค้าและการขายปลีกลดลงในช่วงปลายปี

GBP/USD เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับยูโรโดยเริ่มจะผ่านแนว 1.43 ทั้งนี้ยังไม่มีกำหนดรายงานทางเศรษฐกิจจากสหราชอาณาจักร ดังนั้นสกุลเงินจึงเคลื่อนตัวตามโมเมนตัมของดอลล่าร์อย่างเดียว ส่วนตัวเลข GDP ของสหราชอาณาจักรในไตรมาสที่สี่มีกำหนดประกาศในวันศุกร์ ซึ่งการเติบโตของรายไตรมาสคาดว่าจะยังคงทรงตัว แต่ในรายปีคาดว่าการเติบโตจะชะลอตัว ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 4 มีความสำคัญมากต่อเงินปอนด์ และมีแนวโน้มเป็นบวก ที่ผ่านมา GBP/USD แตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016 และไม่มีแนวต้านทานที่สำคัญจนถึง 1.45

ทั้ง 3 สกุลเงินซื้อขายสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี การเติบโตของยอดขายปลีกในแคนาดาที่ช่วยผลักดัน USD/CAD ลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 4 วัน แม้ว่ายอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.6% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.9% โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและเศรษฐกิจเฟื่องฟู การใช้จ่ายด้านอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 12.9% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของราคาก๊าซก็มีส่วน นักลงทุนดูเหมือนจะไม่สนใจผู้ว่าการธนาคารแห่งแคนาดานาย Poloz ซึ่งแสดงความคิดเห็นว่ายังต้องพึ่งข้อมูลอย่างอื่น การเจรจาของ NAFTA ดีกว่าที่คาดไว้หัวหน้า NAFTA ของแคนาดากล่าวว่าการประชุมยังคงเป็นไปได้ด้วยดี ทรัมป์กล่าวว่า "ผมคิดว่าเรามีโอกาสที่จะเจรจากับ NAFTA อีกครั้ง แต่เราขอดูก่อน" ส่วนราคาผู้บริโภคมีกำหนดประกาศในวันศุกร์ และคาดว่าจะมีการชะลอตัว หลังจากการเติบโตของราคาในเดือนก่อน ไม่มีรายงานเศรษฐกิจใดที่กำหนดประกาศในออสเตรเลีย แต่ดอลลาร์นิวซีแลนด์ดูเหมือนจะไม่สนใจตัวเลข CPI ในไตรมาสที่ 4 ที่ชะลอตัวลง

เขียนโดย: Kathy Lien