สภาวะหุ้น-พันธบัตร ส่อแววเศรษฐกิจชะลอตัว จับตาการตัดสินใจของเฟด

 | Jun 16, 2019 13:34

  • หุ้นยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยในทิศทางตรงกันข้าม
  • ตลาดหุ้นยังทำกำไรรายสัปดาห์ได้โดยมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างต่ำ ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรกำลังจะไปทดสอบที่จุดต่ำสุดของเดือนมิถุนายนอีกครั้ง

  • นักลงทุนด้านน้ำมันคาดการณ์ว่าสถานการณ์ตลาดจะยังคงซบเซา

  • ความตึงเครียดทางการค้าและความกังวลเกี่ยวกับ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็น 2 ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนขึ้นลงตลอดเวลา แม้ว่าล่าสุดราคาตลาดจะปรับตัวขึ้นไปปิดตลาดสูงกว่าสัปดาห์ที่แล้วได้เล็กน้อย โดยหุ้นขนาดเล็กต่างๆ ยังทำผลงานได้ดีขึ้น ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผล เนื่องจากความตึงเครียดด้านสงครามทางการค้าและการตอบโต้กันไปมาในด้านภาษีเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบกับหุ้นขนาดใหญ่ การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นอาจทำให้หุ้นขนาดใหญ่กลับมาฟื้นตัวได้แต่ ดอลลาร์สหรัฐ จะอ่อนตัวลง

    แม้ว่าตัวเลข ยอดขายปลีก ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์จะมีค่าที่ดีขึ้น แต่การที่หลายฝ่ายยังเชื่อว่าน่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นทำให้การฟื้นตัวในวันพฤหัสบดีไปไม่ถึงฝัน ดัชนี S&P 500, Dow Jones, NASDAQ และ Russell 2000 ปรับตัวลดลงทุกดัชนีในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการซื้อขายกันในกรอบแคบๆ ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ในระหว่างที่มีการรอฟัง การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย จากธนาคารกลางสหรัฐฯ

    เราเชื่อว่าธนาคารกลางจะพยายามสร้างความสมดุลไม่ให้ตลาดเกิดความตื่นตระหนกจนเกินไปแต่ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ซึ่งการใช้นโยบายทางด้านดอกเบี้ยจะช่วยปรับให้เกิดความเสถียรในด้าน การจ้างงาน และราคาได้ แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนพอสมควร หากธนาคารกลางตัดสินใจที่จะไม่ใช้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำอย่างที่ตลาดต้องการ ราคาในตลาดก็จะปรับตัวลดลงอีกเนื่องจากราคาปัจจุบันไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้นั่นเอง

    h2 หุ้นและพันธบัตรยังปรับตัวสวนกระแส
    /h2
    ดาวน์โหลดแอป
    เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
    ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

    เป็นที่น่าสังเกตว่าการปรับตัวสูงขึ้นของราคา น้ำมัน ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการชะลอตัวลง หลังจากที่มีการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากความขัดแย้งทางทหารที่ทำให้กองทัพเรือจากสหราชอาณาจักร วางแผนการ ในการส่งนาวิกโยธินเข้าไปปกป้องเรือของอังกฤษ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักลงทุนที่เชื่อว่าเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวจะส่งผลกับความต้องการใช้พลังงาน เพราะแม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์จะดีขึ้นก็ตาม แต่ราคาน้ำมันแทบจะไม่ขยับตัวขึ้นได้เลย