กราฟประจำวัน: เหตุใดตลาดหุ้น-น้ำมัน จึงมีความเห็นต่างกันในเรื่องสงครามการค้า

 | Jun 27, 2019 15:01

ทำไมตลาดน้ำมันจึงมีความกังวลว่าสงครามการค้าที่ยืดเยื้อจะทำให้กำลังซื้อลดน้อยลง แต่ตลาดหุ้นนั้นกลับมีความหวังว่าสหรัฐฯ กับจีนน่าจะมี ความสัมพันธ์ทางการค้า ที่ดีขึ้นกว่าเดิม?

นักลงทุนในตลาดน้ำมันยังคงเฝ้าจับตาดูสถานการณ์ด้าน ความต้องการ น้ำมัน จากการประชุมร่วมกันของประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสีในการประชุม G20 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงโอซากา ประเทศญี่ปุ่นในวันเสาร์นี้ โดยหากสถานการณ์ในการประชุมไม่สู้ดีนัก ก็จะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันลดลงตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ด้วยเช่นกัน โดยจะสังเกตได้จากราคาที่ปรับตัวลดลงซึ่งเกิดจากการที่นักลงทุนมีการเทขายและเข้าถือสถานะ short มากขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้

หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังยืนยันที่จะ คุกคาม จีนด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญต่อไปตามที่ได้กล่าวเป็นนัยๆ เมื่อวานนี้ ก็จะเป็นการกดดันให้จีนต้องลดค่าเงิน หยวน ลงอีกเพื่อเป็นการชดเชยกับภาษีและการขาดทุนทางธุรกิจที่จะต้องเสียให้กับสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากการแบนบริษัทของจีนก่อนหน้านี้นั่นเอง เงินหยวนที่ลดค่าลงจะทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นและจะส่งผลเสียในด้านความต้องการน้ำมันด้วยเช่นกัน

ด้านโอเปคก็ยังคงเลื่อนกำหนดการประชุมเกี่ยวกับการจัดการปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปจนกว่าการประชุมระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะเสร็จสิ้นไปก่อนด้วยเหตุผลเดียวกัน คือจัดการราคาให้เหมาะสมเพื่อคงส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ โอเปคต้องการควบคุมราคาน้ำมันไม่ให้สูงจนเกินไปนั่นเอง

ความกังวลว่าความต้องการน้ำมันจะลดลงนั้นทรงพลังมากถึงขนาดที่ทำให้ ปริมาณการสำรองน้ำมัน ของสหรัฐฯ ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยจะปรากฏให้เห็นได้บ่อยนักกล่าวคือ ทั้งๆ ที่เป็นสถานการณ์เดียวกัน แต่กลับส่งผลกับตลาดต่างๆ ไม่เหมือนกัน ในขณะที่นักลงทุนในตลาดหุ้นมองว่าสงครามภาษีน่าจะมีโอกาสเกิดการพักรบ แต่นักลงทุนในตลาดน้ำมันยังต้องการหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้ว่าสหรัฐฯ กับจีนจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์กันได้จริงๆ

ข้อมูลทางเทคนิคของแรงอุปสงค์และอุปทานก็แสดงหลักฐานที่สนับสนุนข้อมูลดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้