สัปดาห์นี้ความผันผวนยังมีสูง ตลาดหุ้น พันธบัตร และน้ำมันอาจปรับตัวลดลงได้

 | Aug 19, 2019 04:56

  • ธนาคารกลางยุโรปประกาศใช้มาตรการทางการเงินอย่างหนักหน่วงเพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจที่กำลังถดถอย

  • กราฟดอกเบี้ยพันธบัตรรุ่นอายุ 3 เดือนและ 10 ปียังเป็นรูปแบบ Inversion กันอยู่ ส่วนดอกเบี้ยพันธบัตรรุ่นอายุ 30 ปีทรงตัวอยู่ที่ระดับเหนือจุดต่ำสุดตลอดกาลอยู่เพียงเล็กน้อย

  • เงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นไปปิดตลาดประจำสัปดาห์ได้สูงที่สุดในรอบสองปี

การที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) นำมาตรการทางการเงินกลับมาใช้ อีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับ การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ที่เพิ่มมากขึ้นนั้น เราคาดว่าตลาดจะค่อนข้างมี ความผันผวน ไปตลอดทั้งสัปดาห์เลยทีเดียว

ข้อมูลทางเทคนิคของตลาดหุ้น พันธบัตร และน้ำมันก็ชี้ให้เห็นว่าตลาดทั้งสามน่าจะเป็นขาลงต่อไป

มาตรการของ ECB จะให้ผลดีมากกว่าวาทกรรมในสงครามการค้าหรือไม่?/h2

หลังจากที่ตลาดต้องเผชิญกับการเทขายออกอย่างรุนแรงที่สุดในรอบปีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็กลับฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงวันศุกร์เป็นวันที่สองเนื่องจากมีความหวังว่ามาตรการที่ยุโรปจะนำออกมาใช้ซึ่ง รวมถึงรายงาน ที่ว่าเยอรมนีอาจพร้อมที่จะยอมให้ดุลบัญชีของรัฐบาลติดลบเพื่อช่วยให้สภาพเศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้และน่าจะให้ผลดีกว่าวาทกรรมด้านสงครามทางการค้าที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นก็ยังคงปิดตลาดได้ต่ำลงกว่าเดิมในสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม

ด้านตลาดพันธบัตรเมื่อไม่กี่วันมานี้ก็ยังเป็นช่วงที่มีการเทขายกันออกมาอย่างหนัก แม้จะสามารถไต่สูงขึ้นมาได้เมื่อวันศุกร์ แต่ก็ยังถือว่าลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม ด้านเงิน ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นมาได้เป็นวันที่สี่ ในขณะที่ น้ำมัน ก็ปรับตัวสูงขึ้นได้เป็นสัปดาห์แรกในรอบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

การฟื้นตัวขึ้นได้เป็นระยะสั้นๆ ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการที่สหรัฐฯ ชะลอการจัดเก็บภาษีกับจีนไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม แต่การฟื้นตัวนี้ก็ต้องจบลงหลังจากที่มีการประกาศรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของ เยอรมนี และ จีน ซึ่งออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังและยิ่งทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัวต่อไปอีก ทำให้กราฟดอกเบี้ยพันธบัตรรุ่นอายุ 3 เดือน กับรุ่นอายุ 10 ปี เกิดรูปแบบ Inversion ที่ห่างกันมากยิ่งขึ้น และยังทำให้กราฟดอกเบี้ยพันธบัตรรุ่นอายุ 2 ปี กับ 10 ปี เกิดรูปแบบ Inversion เช่นกัน รวมทั้งกดให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรุ่นอายุ 30 ปี ลดลงไปทำลายสถิติต่ำสุดที่ 1.916% ในวันพฤหัสบดี

แต่กระนั้น นักลงทุนในตลาดหุ้นก็ยังมีความหวัง หลังจากที่ ECB มีรายงานออกมาว่าจะดำเนินการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดี ทำให้ตลาดหุ้นที่เคยมีการเทขายอย่างหนักกลายเริ่มมีแรงหนุนจากการซื้อเข้ามาเป็นระลอก นายออลลี เรห์น ผู้ว่าการธนาคารกลางของฟินแลนด์ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของ ECB กล่าวว่าธนาคารกลางยุโรปกำลังเตรียมความพร้อมที่จะนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ชุดใหญ่” มาใช้ในเร็ววันนี้

ในวันศุกร์ ตลาดหุ้นจึงค่อนข้างสดใส ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งสี่ตัวสามารถปรับตัวขึ้นได้ราว 1% ทุกดัชนี โดยดัชนี Russell ปรับขึ้นได้ 2%

ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นไปได้ +1.44% ในวันศุกร์ โดยทุกกลุ่มอุตสาหกรรมสามารถปิดตัวในแดนบวกได้ทั้งหมด หุ้นกลุ่ม อุตสาหกรรม ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดที่ +1.93% ตามมาด้วยหุ้นกลุ่ม เทคโนโลยี ที่ระดับ +1.87% ซึ่งได้รับแรงหนุนมาจากยอดขายผลกำไรของบริษัทผู้ผลิตชิปอย่าง NVIDIA (NASDAQ:NVDA) ที่ออกมาสูงเกินคาด หุ้นในกลุ่ม วัสดุก่อสร้าง ปรับเพิ่มขึ้น +1.78% หุ้นกลุ่ม สถาบันการเงิน กลับมาฟื้นตัวขึ้นได้อีกครั้งที่ระดับ +1.76% แม้ว่ากราฟอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรจะยังเป็นรูปแบบ Inversion อยู่ก็ตาม

เมื่อพิจารณาเป็นรายสัปดาห์จะพบว่า ดัชนี S&P 500 ปรับลดลง 1.03% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลุ่ม พลังงาน ซึ่งปรับลดลง -3.52% แม้ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินปรับลดลง -2.21% อันเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่ปรับตัวลง กลุ่ม สินค้าฟุ่มเฟือย ก็ปรับลดลงไป -2.03% ด้วยเช่นกัน แต่ในช่วงเดียวกัน หนึ่งในหุ้นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคือกลุ่ม สินค้าจำเป็นสำหรับการอุปโภคบริโภค ซึ่งปรับขึ้นได้ +1.5% ตามมาด้วยหุ้นกลุ่ม สาธารณูปโภค ที่ระดับ +0.84% และกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ ที่ +0.49%