ธนาคารกลางยุโรปอาจยังไม่เลือกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่

 | Sep 12, 2019 05:44

โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management/h2

ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 11 กันยายน 2019/h3

การประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปที่จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้คือปัจจัยที่มีความสำคัญมากที่สุดของสัปดาห์นี้ เราจึงไม่แปลกใจที่ EUR/USD จะทะลุลงมาอยู่ต่ำกว่า 1.10 ก่อนที่จะมีการ ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องอัตราดอกเบี้ย ในครั้งนี้ นักลงทุนคาดหวังกับการประชุมครั้งนี้กันไว้มากเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของยูโรโซนกำลังเริ่มแย่ลง รวมทั้งมีกระแสข่าวออกมาหนาหูว่าเยอรมนีอาจจะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินยูโรปรับตัวลดลงต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่พันธบัตรเยอรมันก็ดิ่งลงไปอยู่ในแดนลบ หากย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคมช่วงที่นายดรากีได้ยกข้อดีของการนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาใช้ประกอบกันเป็นชุดนั้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีการเรียกร้องให้ใช้มาตรการดังกล่าวหนักขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่นักลงทุนกำลังรอให้มีนำปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจที่น่าจะถูกนำมาใช้อย่างมากมายดังกล่าว ก็ยังมีเหตุผลบางอย่างที่ธนาคารยุโรปอาจไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่อย่างที่คาดกันเอาไว้

สถานการณ์เศรษฐกิจในยูโรโซนในขณะนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือ จากตารางข้อมูลที่แสดงด้านล่างเปรียบเทียบให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่มีการประชุมของธนาคารกลางยุโรปครั้งที่ผ่านมา ในตอนนั้นเศรษฐกิจเกือบทุกส่วนของยูโรโซนอ่อนตัวลงตลอดช่วง 2 เดือนที่เกิดการแทรกแซงขึ้น ยอดขายปลีก อัตราเงินเฟ้อ ปริมาณการจ้างงาน และ อุตสาหกรรมการผลิต ปรับตัวลดลงทั่วทั้งภูมิภาค นอกจากนั้นเศรษฐกิจในเยอรมนีก็เกิดการหดตัวใน ไตรมาสที่สอง ด้วยซึ่งมีสาเหตุมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง รวมทั้งอุตสาหกรรมการผลิตที่ย่ำแย่ลงอย่างมาก ไม่เพียงแต่ดัชนี PMI ในภาคการผลิตจะปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่แปดแต่เป็นการปรับลดลงที่ต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี ธนาคารกลางเยอรมนีกล่าวว่าหากพิจารณาข้อมูลทางเทคนิคแล้วจะพบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เยอรมนีจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงไตรมาสที่สาม จากสถานการณ์สงครามทางการค้าที่ยังดุเดือด ประกอบกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวในปัจจุบัน ทำให้ธนาคารกลางยุโรปต้องพยายามหาทางนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้เพื่อช่วยเหลือประเทศในภูมิภาคให้ได้

ธนาคารกลางยุโรปมีวิธีที่สามารถเลือกใช้ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปรับเพิ่มตัวเลขการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ ริเริ่มโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์โครงการใหม่ รวมทั้งจ่ายเงินชดเชยให้กับธนาคารต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบ ซึ่งการใช้หลายมาตรการร่วมกันเป็นสิ่งที่ธนาคารกลางยุโรปต้องการเนื่องจากคิดว่า “จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการนำมาตรการออกมาใช้ทีละอย่าง” ตลาดจึงมีความคาดหวังว่าน่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 10 จุดเบสิส หากธนาคารกลางใช้มาตรการนี้ร่วมกับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเป็นช่วง หรือร่วมกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ EUR/USD ก็จะถูกเทขายอย่างหนัก แต่หากตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงและปรับดอกเบี้ยรับจำนำที่ต่ำให้สูงขึ้น เงินยูโรก็จะทะยานขึ้นด้วยความผิดหวัง

การที่เงินยูโรยังอ่อนค่าเช่นนี้ การใช้มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจที่ไม่มากพออาจทำให้เกิดการปิดสถานะ short ของสกุลเงินนี้อย่างรุนแรง น่าเสียดายที่มีแรงต้านทานไม่ให้ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดตัวหนึ่งเข้ามาร่วมด้วย นายวิลเลอรอย ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศสเริ่มที่จะคิดถึงมาตรการ QE ในขณะที่คณะกรรมการด้านการเงินของเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์เชื่อว่าอาจจะยังเร็วไปที่จะใช้ จากความคาดหวังที่มีอยู่สูงมากของตลาด นักลงทุน EUR/USD ควรเตรียมรับความผิดหวังเอาไว้ด้วย นายดรากีอาจเลือกที่จะยังไม่ใช้มาตรการ QE เพื่อให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปของเขาอย่างนางคริสติน ลาการ์ดเก็บไว้ใช้เป็นเครื่องมือในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำหนักกว่าเดิมก็ได้